Non-Bank Sector เติบโตในอัตราที่เร่งตัวขึ้น

Non-Bank Sector เติบโตในอัตราที่เร่งตัวขึ้น

สภาวะตลาดค่อนข้างยาก ...รายใหญ่โตได้ แต่รายเล็กลำบาก

แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q65 ได้แก่ 1) อุปสงค์สินเชื่อแข็งแกร่งในส่วนของสินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนในช่วงที่มีการกลับมาเปิดประเทศ และช่วงเก็บเกี่ยวในภาคเกษตร ซึ่งหนุนให้พอร์ตสินเชื่อโดยรวมของบริษัทในกลุ่มนอนแบงก์ (non-bank) ขยายตัวได้ถึง >20% YoY ใน 2Q65  2) บางบริษัทปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างเช่น TIDLOR ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถลงเหลือ 17% (จากเดิม 20%) เป็นเวลา 2-3 เดือนเพื่อขยายฐานลูกค้าบัตร TIDLOR ซึ่งมุ่งเป้าจะขยายฐาน big data ของลูกค้า 3) บริษัทนอนแบงก์ ขนาดเล็กขยายสินเชื่อได้ลำบาก โดย SAK ต้องใช้นโยบายลดดอกเบี้ยลงเพื่อขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน ในขณะที่ HENG เปลี่ยนโหมดการขยายสินเชื่อไปเน้นสินเชื่อ H/P รถมือสองแทน 4) NPL มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องเร่งตัดหนี้สูญ (write-off) หนี้เสียเพิ่มขึ้น

 

คาดว่ากำไรจะโต 5% QoQ และ 12% YoY ใน 2Q65 และคาดว่าจะโต 7% ในงวด 1H65F

ถึงแม้เราจะใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อรวมของบริษัทในกลุ่มนอนแบงก์ (non-bank) จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 27%-30% แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q65 จะยังฟื้นตัวในอัตราที่ต่ำ โดยเราคาดว่าบริษัทขนาดใหญ่ (MTC, TIDLOR, SAWAD) กำลังพยายามที่จะรักษาตัวเลขกำไรเอาไว้ให้เท่ากับไตรมาสก่อนๆ ด้วยการเร่งโตสินเชื่อเพิ่มชดเชยยีลด์ที่ต่ำลง และคชจ.สำรองฯที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรของบริษัทขนาดเล็ก อย่าง SAK คาดว่าจะลดลงอย่างมาก ในขณะที่กำไรของ HENG จะเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำใน 2Q64 และ 1Q65 และของ SINGER จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง ทั้งนี้คาดว่ายีลด์สินเชื่อของ TIDLOR และ SAK
จะลดลง 0.2% เป็นเพราะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลดลง

 

 

 

 

ตัดหนี้สูญ (write-off) หนี้เสียก้อนใหญ่เพื่อรักษาระดับ NPL เอาไว้
 

หลังจากที่ NPL เพิ่มขึ้นใน 1Q65 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2Q65 ทำให้บริษัทในกลุ่มต้องเร่ง writeoff หนี้เสียเพื่อรักษาระดับ NPL เอาไว้ โดย NPL ใหม่มาจากทั้งหนี้เสียจากโครงการผ่อนผันหนี้ และหนี้เสียที่เกิดขึ้นใหม่ ทั้งนี้ NPL เป็นตัวที่ทำให้ผลประกอบการอ่อนไหว ซึ่งบริษัทขนาดเล็กจะมีความเสี่ยงมากว่าบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้น เราจึงมองลบกับบริษัท non-bank ขนาดเล็กอย่าง SAK และ HENG แต่มองบวกกับ MTC SAWAD และ TIDLOR มากกว่า

 

Valuation and action

เรามองว่าภาวะตลาดค่อนข้างยากลำบากสำหรับธุรกิจ non-bank โดยผู้เล่นรายใหญ่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อขยายสินเชื่อ ในขณะที่ NPL เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อระดับล่าง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อบริษัท nonbank ขนาดเล็ก ทั้งนี้ ในภาวะที่ดอกเบี้ยกำลังขึ้น และ NPL ยังอยู่ในระดับสูง เราคิดว่าการดำเนินงานของบริษัท non-bank จะไม่เหมือนในอดีตอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก PE ยังต่ำ เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ MTC SAWAD และ ปรับคำแนะนำเป็นซื้อสำหรับ TIDLOR

 

Risks

แรงกดดันทางด้านของ Yield, ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น, NPL และ credit cost เพิ่มขึ้น.