Power Sector เชื่อมั่นในศักยภาพ (4 ส.ค. 2565)

Power Sector เชื่อมั่นในศักยภาพ (4 ส.ค. 2565)

เราปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และประมาณการกำไร 2Q65 ของกลุ่ม มีสี่ปัจจัยสนับสนุนรออยู่ข้างหน้า

i) ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดแล้วใน 1Q65 เราคาดกำไรหลักใน 2Q65F จะดีดตัวขึ้น QoQ และเร่งตัวขึ้นอีกใน 2H65 ก่อนที่จะเติบโตแข็งแกร่งในปี 2566 เราคาดกำไรหลักใน 3Q65F จะเป็นจุดสูงสุดในปีนี้ก่อนที่จะแผ่วลงใน 4Q65F เราคาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังจะดีกว่าใน 1H65 เนื่องจาก (i) มีการปรับขึ้นค่า Ft (ii) ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำแข็งแกร่งมากขึ้น และ (iii) ดีล M&A มีแนวโน้มสดใส

ii) คาดว่าปัจจัยภายนอกจะเป็นบวกมากขึ้น ตามปกติแล้ว หุ้นสาธารณูปโภคจะเคลื่อนไหวสวนทางกับอัตราพันธบัตร ราคาน้ำมัน และ USD/THB ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์เราคาดว่าปัจจัยทั้งสามผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มลดลงมาใน 2H65 ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นสาธารณูปโภคกลับมาวิ่งขึ้นแรงได้อีกครั้งจากความกังวลที่ลดลง โดยเฉพาะ EGCO (EGCO.BK/EGCO TB)*.

iii) สถานะเป็นหุ้น defensive ท่ามกลางสภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย เราเชื่อว่านักลงทุนในตลาดกำลังมองหาหุ้น defensive โดยกระแสเงินทุนไหลเข้ามักจะถูกโยกเข้าไปลงทุนในหุ้น defensive ในช่วงที่ภาวะแบบนี้ เพราะหุ้นสาธารณูปโภคเป็นตัวแทนสถานะของหุ้นที่ผลการดำเนินงานมาจากการขายไฟฟ้า โดยมีสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาว

iv) แผน PDP ใหม่กำลังจะออกมา เรามองว่า PDP ใหม่จะเป็นปัจจัยกระตุ้นในระยะยาว ซึ่งจะช่วยสร้างสภาวะตลาดด้านบวกในระยะสั้นด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังเกาะตามกระแสการเปลี่ยนผ่านไปสู่การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่สะอาด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต ทั้งนี้ ประเทศไทย และเวียดนามน่าจะออก PDP ฉบับใหม่มาใน 2H65

 

 

 

ผลประกอบการ 2Q65F ของกลุ่มโรงไฟฟ้าจะแข็งแกร่งมากขึ้น

เราคาดกำไรสุทธิรวมใน 2Q65F ของ 8 บริษัทโรงไฟฟ้าที่เราศึกษาจะเหลือ 6.45 พันลบ. (-53% QoQ, - 40% YoY) จากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่ BPP (BPP.BK/BPP TB) และ BCPG (BCPG.BK/BCPG TB)* ไม่มีการบันทึกกำไรจากการขายการลงทุนออกไป อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของกลุ่มจะอยู่ที่ 1.159 หมื่นล้านบาท (+10% QoQ, -4% YoY) เนื่องจาก (i) กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากบริษัทโรงไฟฟ้าประเภท SPP ทั้งนี้ ราคาก๊าซทที่ลดลง QoQ ในขณะที่ค่า Ft เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ทำให้เราคาดว่า GPM โดยรวมจะเพิ่มขึ้น QoQ แต่จะยังคงลดลง YoY (ii) โรงไฟฟ้าพลังน้ำมีผลการดำเนินงานดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และ (iii) มีการคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ CKP (CKP.BK/CKP TB)* จะออกมาดีที่สุด ในขณะที่ของ EGCO จะออกมาแย่ที่สุดโดยประเด็นที่น่าสนใจคือ กำไรของ BPP น่าจะออกมาดีเกินคาด และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีกใน 2H65F

 

Valuation & Action

เราเพิ่มคำแนะนำหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจากถือเป็นซื้อ โดยหุ้น Top pick คือ GULF ส่วนนักลงทุนประเภทที่ชอบความเสี่ยงให้เข้าลงทุนใน BGRIM และ GPSC ขณะที่มองว่า EGCO เป็นหุ้น value stock สำหรับนักลงทุน defensive และเห็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรใน BPP เราคิดว่านักลงทุนน่าจะเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มนี้จากสถานะความเป็นหุ้น defensive ซึ่งน่าจะถูก re-rate และ outperform ได้ โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส ทั้งนี้นักลงทุนบางรายอาจเป็นกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของอุปทานก๊าซ และวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น แต่เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้
สะท้อนปัจจัยดังกล่าวมากแล้ว และการที่หุ้นจะวิ่งขึ้นแรงได้มักจะเริ่มต้นจากการที่ตลาดมองลบก่อน