’อินทผาลัม’ ปลอดสารพิษทำเงินหลักแสน!

อดีตข้าราชการ ลงทุน 3 ล้านบาทพัฒนาพื้นที่ 3 ไร่ปลูกอินทผลัม เนรมิตเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรรับนักท่องเที่ยวสายสุขภาพ ชูจุดเด่นปลอดสารเคมีเก็บกินผลสดจากต้นได้ หลังใช้เทคนิคการปลูกแบบอินทรีย์ด้วยปุ๋ยมูลแพะควบคู่กับสารชีวภาพ

นายลิขิต เรือนพันธ์ เจ้าของสวนไดมอนด์ฟาร์มอินทผาลัมเชียงใหม่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นข้าราชการมาก่อน และตัดสินใจเกษียณก่อนกำหนด เพื่อมาทำสวนอินทผาลัม เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

และกำลังเป็นที่นิยมในตลาดกลุ่มผู้บริโภคสายสุขภาพที่สามารถทำรายได้ดีกว่าผลไม้ชนิดอื่น จึงได้ลงทุน 3 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ปลูกอินทผาลัม พันธุ์บาฮีสีเหลือง จำนวน 120 ต้น โดยเริ่มปลูกเมื่อ 3 ปีก่อน และเพิ่งจะให้ผลผลิตเป็นปีแรก ปีนี้จึงได้เปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชิม อินทผาลัมแบบสดๆใต้ต้น และสามารถซื้อผลผลิตกลับบ้านได้โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง

ทั้งนี้ ผลผลิตอินทผาลัมจะไม่เหมือนที่อื่น โดยขนาดจะใหญ่มีรสชาติหวานกรอบ เพราะจะดูแลด้วยระบบเกษตรอินทรีพย์ไม่ใช้สารเคมีใดๆ โดยจะใช้มูลแพะ และสารชีวภาพควบคุมคุณภาพผลผลิต จากนั้นเมื่อออกผลก็จะนำเอาผ้าสปันบอนด์ และถุงกระดาษมาห่อ เพื่อกันแมลง และให้ผิวของอินทผาลัมสวยงาม ซึ่งหลังจากที่เปิดสวนได้เพียง 2 สัปดาห์ปรากฎว่าผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมสวนเป็นจำนวนมาก เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีนับร้อยคน สร้างรายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชิมที่ต้นได้ด้วยตนเอง และมาเช็คอินถ่ายรูปสวนอินทผาลัมในมุมสูง360 องศา รวมถึงมีกาแฟอินทผาลัมจำหน่ายด้วย
นายปิติภัทร เรือนพันธ์ฝ่ายการตลาดสวนไดมอนด์ฟาร์มอินทผาลัมเชียงใหม่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าทางสวนต้องการให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงการบริโภคอินทผาลัมได้ง่ายในราคาที่จับต้องได้ โดยจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งปีนี้ให้ผลผลิตเป็นครั้งแรกคาดว่าจะมีจำนวน 1 ตัน สามารถทำรายได้ประมาณ 300,000 บาท คาดว่าภายใน 1-2 เดือนผลผลิตน่าจะหมด เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเกินความคาดหมายโดยต่อไปจะยกระดับให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และจะให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างรายได้ร่วมกัน
นายเสริมพงษ์ พงษ์พิกุล เกษตรอำเภอดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ศักยภาพของสวนอินทผาลัมแห่งนี้ ให้ความสำคัญในการพัฒนาเป็นผลไม้ปลอดสารเคมี และผลผลิตมีขนาดค่อนข้างใหญ่ รสชาติหวาน ขณะที่ต้นอินทผาลัมไม่สูงเหมือนสวนอื่นๆ ทำให้เก็บได้ง่าย กลายเป็นเสน่ห์ของสวนที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมแล้วชื่นชอบ อีกทั้งยังเปิดให้ชิมก่อนซื้อได้ และมีขนาดแบ่งขายไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งกิโลกรัม ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จทั้งที่เพิ่งเปิดเป็นอีกแรก ต่อไปจะพยายามผลกดันให้ได้รับการรับรองทางด้านของเกษตรอินทรีย์ เพื่อยกระดับให้เป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของอำเภอดอยสะเก็ด