'อัพบิต' ชี้ ครึ่งปีหลังคริปโทซบเซา เร่งพัฒนาองค์กร รับตลาดกระทิง

'อัพบิต' ชี้ ครึ่งปีหลังคริปโทซบเซา  เร่งพัฒนาองค์กร รับตลาดกระทิง

'อัพบิต' คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย กระทบคาดราคาตลาดคริปโทแกว่งตัว ชี้ ครึ่งปีหลังคริปโทซบเซา เร่งพัฒนาองค์กร ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4ปี เตรียมพร้อมรับตลาดกระทิง

 “พีรเดช ตันเรืองพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า คาดราคาตลาดคริปโทแกว่งตัว เพราะได้รับผลกระทบจากการการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่าตลาดจะรับรู้การคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75-1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงมาก่อนหน้าแล้ว 

แต่หากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ที่ระดับ 0.5% อาจทำให้ราคาตลาดคริปโทปรับตัวขึ้น และปิดแท่งสีเขียวในสัปดาห์นี้

ขณะที่แนวโน้มตลาดคริปโทในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าจะซบเซานั้นทำให้บริษัทอัพบิต เร่งพัฒนาพัฒนาองค์กร และผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4ปีนี้ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดกระทิง หรือตลาดขาขึ้นในอนาคตเช่น การเพิ่มเหรียญใหม่ๆเข้าในกระดานเทรด

โดยขณะนี้บริษัทอัพบิต ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีจำนวนเหรียญในกระดานเทรดกว่า 100 เหรียญ ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกเหรียญคริปโทของอัพบิต อิงตามกฎของสำนักงานก.ล.ต.รวมถึงนโยบายของบริษัท โดย Upbit Thailand จะใช้เกณฑ์ด้านปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก จากเหรียญที่มี Volume การเทรดที่สูงจากทั่วโลก เพื่อป้องกันการปั่นราคาอย่างไม่เป็นธรรมจากนักลงทุนรายใหญ่ และโปรเจกต์ของเหรียญนั้นๆต้องมีความโปร่งใสด้วย

พีรเดชกล่าวว่า สำหรับกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ‘ซิปเม็กซ์’กระดานเทรดในประเทศไทยนั้น ได้มีการพูดคุยกับทุกกระดานซื้อขายในประเทศไทย พบว่าไม่มีศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใดในประเทศไทยมีความเสี่ยงในกรณีดังกล่าวพร้อมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน ว่าทางบริษัทอัพบิต ไม่มีการนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปแสวงหาผลประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระดานเทรดของไทย อาจทำให้นักลงทุนหันไปใช้กระดานเทรดต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่าง ก.ล.ต.อาจเข้มงวดมากขึ้น