วิกฤติเงินดิจิทัลเสื่อมค่าอสังหาฯ ชวดลูกค้าคริปโท

วิกฤติเงินดิจิทัลเสื่อมค่าอสังหาฯ ชวดลูกค้าคริปโท

หลังจาก“ซิปเม็กซ์” ระงับการเพิกถอนเงินของนักลงทุนเกิดวิกฤติความเชื่อมั่นต่อตลาดคริปโทไทยหลายคนหวั่นกระทบอสังหาฯ “ริชี่ เพลซ-เอสซี แอสเสท” ออกมายืนยันว่าไม่ได้สะเทือนแค่ทางเลือกให้กับลูกค้าชำระเงินแต่ยอมรับว่าลูกค้ากลุ่มนี้หายไปจากการเสื่อมค่าของคริปโท

“อาภา อรรถบูรณ์วงศ์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICH กล่าวว่า สถานการณ์ดังกล่าวคงไม่มาทำร้ายตลาดอสังหาฯ เพราะในช่วงที่ผ่านเพิ่งเริ่มต้นกันยังใช้กันไม่มาก แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ใช้มากเพราะปิดประเทศพอดี จึงไม่สร้างผลกระทบนัก เพราะตลาดยังไม่ได้รับผลประโยชน์จากคริปโทอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงไม่เกิดความเสียหาย

ทั้งนี้ จุดประสงค์ที่เปิดรับคริปโทเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการอำนวยความสะดวกในการซื้ออสังหาฯ ให้กับลูกค้าและเป็นการซื้อขายแบบซื้อมาขายไปคือเปลี่ยนจากคริปโทเป็นเงินสดทันที ไม่ได้เก็งกำไร เป็นการเพิ่มช่องทางให้กับลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ซื้อขายคริปโทเท่านั้น

“ที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไรจริงจัง เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ออกมาปราม ซึ่งเราไม่ได้รับประโยชน์จากกลุ่มนี้มากมายนัก พอเกิดเหตุการณ์พังทลายตอนนี้ไม่ได้ส่งผลให้เราซวนเซแค่ช่องทางใหม่หายไป และกลุ่มคนที่เล่นคริปโทมาซื้ออสังหาฯหายไปด้วยเท่านั้น”

อาภา มองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นวัฏจักรมีขึ้นก็ต้องมีลง อนาคตอาจกลับมาขึ้นอีกก็ได้ เหมือนกับหุ้นมีขึ้นลง 2-3 ปีที่ผ่านมาคนเล่นคริปโท เมื่อได้กำไรก็นำไปลงทุนสินทรัพย์หลายประเภทหนึ่งในนั้นก็คืออสังหาฯ ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีคนที่มีกำไรจากคริปโทเข้ามาซื้ออสังหาฯ มากพอสมควรแต่ “ไม่ใช่” เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีผลต่อตลาดอสังหาฯอย่างมีนัยสำคัญ
 

ด้าน เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หนึ่งในบริษัทที่เปิดรับซื้อขายบ้าน-คอนโด ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สืบเนื่องกรณีการเกิดกระแสข่าวใหญ่ในวงการคริปโทฯ และเผยแพร่เปิดรายชื่อ บจ. ในตลาดหุ้นไทย ที่มีการทำธุรกรรมร่วมกันและอาจได้รับผลกระทบ โดยกล่าวอ้างอิงถึง บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดให้ซื้อบ้านและคอนโดฯผ่าน 5 สกุลเงินดิจิทัล

วิกฤติเงินดิจิทัลเสื่อมค่าอสังหาฯ ชวดลูกค้าคริปโท

ทั้งนี้จากหลักเกณฑ์ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้ออกประกาศและออกเกณฑ์กำกับการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่สนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าหรือบริการ นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565

ดังนั้น ทั้งบริษัทและลูกค้าจึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด จากการที่ เอสซี แอสเสท ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในทันที โดยไม่มีการทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัลใดๆ นับจากวันที่ประกาศเป็นต้นมา
 

ระบุต่างชาตินิยมโอนเงินผ่านคริปโท

 “บุญ ยงสกุล” อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย จีน ที่ยังสนใจลงทุนอสังหาฯ ในไทยโดยเฉพาะในภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ยังคงมีลูกค้าต่างชาติที่ใช้บริการผ่านทางคริปโทเพื่อซื้ออสังหาฯ ในระดับราคาตั้งแต่ 10-100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้ออยู่ (เรียลดีมานด์) หลังจากที่เดินทางทำงานในภูเก็ต เนื่องจากทำงานแบบ Work From Anywhere (WFA) เมื่อมาเช่าอยู่ระยะหนึ่ง มักจะตัดสินใจซื้อ​

“แต่ต้องยอมรับว่า จากวิกฤติเงินดิจิทัลเสื่อมค่าเข้าสู่ขาลง ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนหนึ่งหายไป เนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ไม่สนับสนุนและยังไม่รับรองทำให้บริษัทอสังหาฯ ที่สนใจรับคริปโท ไม่ได้ รุกขยายในช่องทางนี้จริงจังแค่เป็นทางเลือก อาจจะมีเข้ามาบ้าง 10-20% แต่ไม่ได้สูงถึง 40-50% จนส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย”

อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติยังโอนเงินซื้ออสังหาฯ ตามปกติ ส่วนที่เป็นคริปโทก็มีแต่ไม่เยอะมากเหมือนในปีที่ผ่านมา เพราะตลาดคริปโทอยู่ในช่วงขาลง ในแง่คนที่ใช้คริปโทในแง่ของการโอนเงินอาจจะยังทำอยู่โดยเอาเงินที่มีใส่เข้าไปในระบบคริปโท แล้วโอนเข้ามาซื้ออสังหาฯ ซึ่งเงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจต่างๆ ไม่ได้มาจากการเล่นคริปโท

ฉะนั้นหลักการใช้คริปโทคือเป็นช่องทางในการโอนเงิน ส่วนกลุ่มคนที่เล่นคริปโทส่วนใหญ่ “ไม่ใช่”กลุ่มลูกค้าหลัก อาจจะมีบ้าง คิดเป็นสัดส่วน 5-10% เพราะกลุ่มลูกค้าที่เล่นคริปโทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อย ไม่คิดซื้ออสังหาฯมูลค่าสูงมากนัก เมื่อเทียบคนที่มีครอบครัว หรืออยู่ในวัยกลางคนจะสนใจซื้ออสังหาฯมากกว่า

จับตาคริปโทชะลอ?

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในปี 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็น“ ปีทอง” ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี หรือคริปโท ซึ่งได้แรงหนุนส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ประกอบการอสังหาฯหลายราย โดดเข้าไปเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคซื้อคอนโด/บ้านผ่านสกุลเงินดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการที่ รวดเร็ว สะดวกสบาย ให้กับลูกค้า รวมถึงการเปิด “โอกาส” นักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งสายเทรดและสายฟาร์มเลือกซื้อบ้านและคอนโดผ่านคริปโท

วิกฤติเงินดิจิทัลเสื่อมค่าอสังหาฯ ชวดลูกค้าคริปโท

ทั้งนี้ เนื่องจาก “ Digital Tokens” ถือเป็นเมกะเทรนด์โลก หากใครไม่ปรับตัวจะตกขบวน และส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบเดิมๆ เพราะพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน มาตรการป้องกันโรคระบาด เช่น การรักษาระยะห่างทางสังคม ทำให้การขายในรูปแบบเดิมหยุดชะงักไป จึงเป็นเวลาของแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นทำให้ "คริปโท" กลายเป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็น แสนสิริ, เอสซี แอสเสท, อนันดา, ออริจิ้น, แอสเซทไวส์, ริชี่ เพลซฯลฯ จึงเปิดรับคริปโท

ทว่าหลังจากนั้นตลาดคริปโทก็ได้ปรับตัว "ลดลง"มาอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าสกุลเงินดิจิทัลกำลังจะเข้าสู่โหมด"จำศีล"แล้ว ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤติที่เข้ามากระทบความเชื่อมั่นรุนแรงทำให้คริปโทเข้าสู่ช่วงขาลง!!