จัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 4 หมื่นกว่าราย ลดลง 2 %

จัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 4 หมื่นกว่าราย ลดลง 2 %

พาณิชย์ เผย ยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 40,301 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 2.8 แสนล้านบาท ชี้ ครึ่งปีหลังยังดีจากเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดยังได้ตามเป้า70,000 – 75,000ราย ขณะที่ยอดเดือนมิ.ย .6,661 รายเพิ่มขึ้น 9%

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจ ครึ่งปีแรก 2565 คือตั้งแต่ ม.ค.-มิ.ย. พบว่า มีจำนวน 40,301 ราย ลดลง 2% แต่ก็ยังถือว่าสอดคล้องกับที่กรมฯ ประเมินไว้ว่าครึ่งปีจะมียอดตั้งใหม่ประมาณ 40,000 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 280,604.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111% และยอดเลิกกิจการ รวม 6,009 ราย เพิ่มขึ้น 22% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวน 58,511.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  92%

ส่วนแนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังมีต่อเนื่อง จากกิจกรรมทางทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนที่เริ่มมีการฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมาทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ที่เริ่มความคลายกังวลต่อโรคโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนเริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติ แต่อาจจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกเพราะดูจากข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2562-2564) พบว่า จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) จะสูงกว่าจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงครึ่งปีหลัง (ก.ค.-ธ.ค.) ทุกปี แต่ก็กรมก็ยังมั่นใจว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70,000 – 75,000รายตามเป้าที่วางไว้

จัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 4 หมื่นกว่าราย ลดลง 2 %

สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนมิ.ย. 2565 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 6,661 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. คิดเป็น 13%  และเทียบกับมิ.ย.2564 เพิ่มขึ้น 9% เป็นการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน  20,744.36 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ
         

 

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,463 ราย เมื่อเทียบกับพ.ค.2565 เพิ่มขึ้น 33% เทียบกับมิ.ย.2564 เพิ่มขึ้น 40% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 5,168.37 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร