Agricultural Outlook ภาวะตลาดอาหารสัตว์โลกผ่อนคลายลง

Agricultural Outlook ภาวะตลาดอาหารสัตว์โลกผ่อนคลายลง

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาไก่และหมูในประเทศทรงตัวอยู่ที่ 46.50 บาท/กก. และ 101.50 บาท/กก. ตามลำดับ โดยราคาหมูในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 1.9% เป็น CNY22.7/กก. เนื่องจากอุปสงค์ฟื้นตัวขึ้น

ในขณะเดียวกัน ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงตามราคาน้ำมันจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความคาดหวังว่าการส่งออกธัญพืชจากยูเครนจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่รัสเซีย และยูเครนลงนามในข้อตกลงที่จะกลับมาเปิดดำเนินการท่าเรือของยูเครนอีกครั้ง ทั้งนี้ ราคากากถั่วเหลืองในตลาดโลกลดลง 5.4% เหลือ US$382/ton ในขณะที่ราคาข้าวโพดลดลง 4.1% เหลือ 12 บาท/กก. แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าลง และยังมีสต็อกเก่าเหลืออยู่ เราจึงคาดว่าอานิสงส์จากการที่ราคาอาหารสัตว์ลดลงจะน้อยใน 3Q65F แต่คาดว่าจะส่งผลดีชัดเจนใน 4Q65F

 

ภาวะตลาดอาหารสัตว์ผ่อนคลายลง

ในรายงานฉบับล่าสุด USDA ได้ปรับลดประมาณการการบริโภคข้าวโพดทั้งโลกในปี MY2565/2566F ลง 0.1% เหลือ 1,185.2 ล้านตัน เนื่องจากคาดว่าการบริโภคใน EU และรัสเซียจะลดลง ในขณะเดียวกันประมาณการผลผลิตข้าวโพดยังแทบไม่เปลี่ยนแปลงและใกล้เคียงกับปริมาณการบริโภคที่ 1,185.9 ล้านตัน โดย USDA ได้ปรับเพิ่มปริมาณสต็อกสิ้นงวด MY2564/65 ขึ้นอีก 1.4 ล้านตัน หรือ 0.4% ซึ่งจะทำให้ภาวะตลาดข้าวโพดผ่อนคลายลง ทั้งนี้ เรามองว่าสมมติฐานราคาข้าวโพดในประเทศเฉลี่ยของเราใน 2H65F ที่ 12.90 บาท/กก. ยังมี downside อีก ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ผลิตเนื้อสัตว์ เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ยังอยู่ที่ระดับค่อนข้างสูงจากการบริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น และภาวะหมูขาดแคลนที่ยืดเยื้อ

 

 

 

สำหรับถั่วเหลือง USDA ได้ปรับลดประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองทั้งโลกลง 1.0% เหลือ 391.4 ล้านตันแต่ยังคงประมาณการการบริโภคถั่วเหลืองทั้งโลกไว้ที่ 377.8 ล้านตัน ทั้งนี้ ถึงแม้ USDA จะปรับลดประมาณการผลผลิตลง แต่ยังคงมากกว่าปริมาณการบริโภคใน MY2565/66 ซึ่งจะทำให้คาดว่าสต็อกสิ้นงวดเพิ่มขึ้น 12.3% YoY จากฐานที่ต่ำใน MY2564/65 เพราะเกิดภาวะภัยแล้ง (Figure 8)

Agricultural Outlook ภาวะตลาดอาหารสัตว์โลกผ่อนคลายลง

Recommendation

เรายังคงมองว่าสถานการณ์โดยรวมเป็นบวกกับผู้ผลิตเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ แม้ว่าราคาเนื้อสัตว์จะมีแนวโน้มลดลงใน 4Q65F แต่เราเชื่อว่า GPM จะยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงด้วย ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ Charoen Pokphand Foods (CPF.BK/CPF TB)*, GFPT (GFPT.BK/GFPT TB) และ Thaifoods Group (TFG.BK/TFG TB) โดยเลือก TFG เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้