Sideways ซื้อเก็งกำไร SAWAD PTG KBANK (26 ก.ค. 65)

Sideways ซื้อเก็งกำไร SAWAD PTG KBANK (26 ก.ค. 65)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,569 / 1,580 จุด แนวรับ 1,553 / 1,543 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร SAWAD PTG KBANK ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีแนวโน้มแกว่งตัวออกด้านข้าง เนื่องจาก RSI ใน Timeframe ระยะสั้นเริ่มเข้าสู่เขต Overbought

โมเมนตัมบวก ยังคงเป็นแรงซื้อคืน Short Covering หุ้นปรับตัวลดลงแรง นับตั้งแต่เดือน มิ.ย. และ SET50 Index Futures (ต่างชาติเปิด Long SET 50 Index ต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ สะสม 68,632 สัญญา) ส่วนโมเมนตัมลบ คือ แรงขายลดความเสี่ยงก่อนเข้าเทศกาลหยุดยาว และรอข้อมูลสำคัญ คือ ผลประชุม FOMC และรายงาน 2Q22 US GDP ไฮไลท์วันนี้ คือ สหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือน มิ.ย., CB Consumer Confidence เดือน ก.ค., ผลการดำเนินงาน 2Q22E ของ บจ. Microsoft, Alphabet

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT MEGA CPN MINT KTB BDMS พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH BAFS DOD DOHOME NYT SIS TWPC SAT WICE PORT TOG LST TK (ซื้อ SFT)

+ 2Q22E Earnings Play: กำไรเติบโตสูง >15% YoY, 20% QoQ และมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย >10% แนะนำ PTT PLANB TOP CPALL BEC VGI KCE MINT SPRC MAJOR BEM

+ กลุ่มเงินบาทอ่อนค่า: TFG GFPT ASIAN TWPC SAPPE KCE MEGA

+/- กลุ่มได้ประโยชน์จากการลดลงของยิลด์พันธบัตร (ดอกเบี้ย): +ผู้ผลิตไฟฟ้า: GULF GPSC BGRIM พัฒนาอสังหาริมทรัพย์: ORI AP LH เงินทุนและหลักทรัพย์: JMT KTC MTC -ธนาคาร ประกันภัยและประกันชีวิต: BBL KBANK KKP BLA TIPH

+/- กลุ่มอิงการแพร่ระบาด COVID-19: +การแพทย์: BH BDMS BCH CHG RAM EKH อุปกรณ์การแพทย์: IMH STGT –กลุ่มเปิดประเทศ: AOT AAV BAFS CENTEL MINT ERW SHR

+/- กลุ่มอิงสินค้าโภคภัณฑ์: +กลุ่ม Commodities PTTEP BANPU TOP SPRC ESSO -Anti-Commodities Play: SCC SCGP TASCO GULF GPSC

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ Short Covering หุ้นที่ปรับตัวลดลงแรงตั้งแต่เดือน มิ.ย. และ SET50 Index Futures โดยวานนี้ ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย +1,494.91 ล้านบาท และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures +25,300 สัญญา

+ HMPRO: รายงาน 2Q22 กำไร 1,520 ล้านบาท เช้านี้ ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus ที่ 1,510 ล้านบาท (IAA แนะนำซื้อ 11 ราย และ Hold 1 ราย ด้วยราคาเป้าหมายที่เฉลี่ย 16.58 บาท)

 

ปัจจัยลบ

- Thailand: การปรับขึ้นยังทำได้อย่างจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะมีการปิดทำการในปลายสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอคอยข้อมูลสำคัญ คือ ผลประชุม FOMC ซึ่งตลาดคาดว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.75% และ 2Q22 US GDP มีความเสี่ยงเกิดภาวะ Technical Recession

- USA: สัปดาห์นี้จะมี 175 บจ. ที่คำนวณในดัชนี S&P500 และ 12 บจ. ที่คำนวณในดัชนี DJIA รายงานงบการเงิน 2Q22E โดยวันนี้จับตา Microsoft 3M Mcdonald Coca-Cola GM Alphabet GE TI UPS ทั้งนี้ มี 105 บจ. ประกาศงบแล้ว และมี 68% ของทั้งหมด รายงานกำไรดีกว่าคาด โดย Factset คาด 2Q22E EPS USD55.88 เติบโต +4.8% YoY (ลดลงจากประมำณการ +5.9% YoY ณ สิ้น 1Q22) ซึ่งเป็นการเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ 4Q20 +4% YoY

 

ประเด็นสำคัญ

- Earnings Results: USA: Microsoft, Alphabet, GM; Thailand: DELTA, HMPRO

- USA: House Price Index เดือน พ.ค. คาด +18.6% YoY และ +1.0% MoM (Vs เดือน เม.ย. +18.8% YoY และ +1.6% MoM)

- USA: ยอดขายบ้านหลังใหม่เดือน มิ.ย. คาดที่ 6.6 แสนหลัง (Vs เดือน พ.ค. 6.96 แสนหลัง)

- USA: CB Consumer Confidence เดือน ก.ค. คาดที่ 97.2 (Vs เดือน มิ.ย. 98.7)

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา


+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีฯ แกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ด้วยกรอบการเคลื่อนไหว 1,548.10-1,563.27 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,560.31 จุด +7.58 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มธนาคาร +2.42% กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ +1.82% กลุ่มค้าปลีก +1.02% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +0.95% หุ้นบวก >4% SCB COM7 BAM TWP MORE SPACK HENG CPL CPH SUTHA CPR DOHOME RBF หุ้นลบ >4% JTS WGE TVDH JKN IMH

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดผสมผสาน: DJIA +0.28% S&P500 +0.13% NASDAQ -0.43% ปิดผสมผสาน หลังจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอรายงานผลประชุม FOMC กลางสัปดาห์นี้ ที่คาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ CAC40 +0.33% DAX -0.33% FTSE +0.41% โดย DAX เป็นตลาดหุ้นเดียวที่ปิดลบ เพราะรายงานดัชนีความเชื่อมั่น IFO ที่แย่ลง และการกังวลขาดแคลนพลังงาน เนื่องจาก Gazprom เผยว่าจะส่งก๊าซธรรมชาติให้เยอรมนีลดลงเหลือเพียง 20% จากการปิดกังหันสูบก๊าซอีก 1 ชุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 เพื่อทำการซ่อมบำรุง

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดบวก ส่วนทองคำปิดลบ: WTI +USD2 ปิดที่ USD96.70/บาร์เรล Brent+USD1.95 ปิดที่ USD105.15/บาร์เรล จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่การปรับขึ้นทำได้จำกัด เนื่องจากยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงาน หากว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกมากเกินไป ส่วนราคาทองคำ -USD8.30 ปิดที่ USD1,719.10/ออนซ์ จากการขาย เพื่อลดความเสี่ยงก่อนผลประชุมเฟดกลางสัปดาห์

 

ประเด็นสำคัญ

+ Russia-Ukraine: รัฐมนตรีช่วยกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน กล่าวว่า ยูเครนจะเริ่มส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์ด้านอาหารในวันนี้ แม้รัสเซียโจมตีท่าเรือโอเดสซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าววานนี้ว่า การส่งออกธัญพืชจากท่าเรือของยูเครนไม่เผชิญอุปสรรคขัดขวางใด ๆ นับตั้งแต่ที่มีการลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืชยูเครน

- EU: ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยว่า ทำงบริษัทจะปิดกังหันสูบก๊าซอีก 1 ชุดในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 เพื่อทำการซ่อมบำรุง ซึ่งจะทำให้รัสเซียต้องลดปริมาณการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งดังกล่าว เปิดเผยว่าการปิดกังหันดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการส่งก๊าซเหลือเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันที่ 27 ก.ค. ตามเวลาไทย จากระดับมากกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการส่งก๊าซผ่านท่อส่งดังกล่าว

- Thailand: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือน มิ.ย. 2022 ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 73,887 คัน ลดลง -11% จากเดือน มิ.ย. 2021 โดยยังคงประสบปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนประกอบที่นำเข้ามาผลิต ขณะที่มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 64,016 ล้านบาท ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน -9.94%

- Thailand: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า แนวโน้มหลังจากนี้จะพบโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับ BA.1 และ BA.2 แพร่ได้เร็วกว่า สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนี้ที่พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ขณะเดียวกัน พบว่า BA.4 และ BA.5 มีความรุนแรงของโรคมากกว่า BA.2

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: COM7 JMART HMPRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SAWAD PTG KBANK

Derivatives: แนะถือ Long S50U22 รอทำกำไรตามเป้า