บลจ.อีสท์สปริง ชูการลงทุนต่างประเทศ ดันAUM ขึ้นท็อป5ใน5ปีข้างหน้า

บลจ.อีสท์สปริง ชูการลงทุนต่างประเทศ ดันAUM ขึ้นท็อป5ใน5ปีข้างหน้า

 "บลจ.อีสท์สปริง"  ตั้งเป้า  5 ปี “เอยูเอ็ม” ติดท็อป5 ของอุตสาหกรรมกองทุนรวม โตเฉลี่ย 6-7%  คาดปีนี้ แตะ 4 แสนล้าน 

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังความสำเร็จของการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด โดยมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด (ณ วันที่ 12 ก.ค. 2565) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลสัดส่วน 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB สัดส่วน 40.5%  ซึ่งภายในระยะเวลา4-5ปีข้างหน้า ทางกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ยังมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นทั้ง100%ได้ ขึ้นอยู่กับการตกลงกันในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า  จะมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ(AUM) ติดอันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมกองทุนรวม และคาดว่า  AUM เติบโต 6-7%  ในช่วง  3-4 ปีข้างหน้า  โดยภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนเช่นนี้ และทำให้ AUM ปีนี้ยังโอกาสเติบโตค่อนข้างน้อย อยู่ที่ 400,000 ล้านบาท       

สำหรับปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง ครองส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ของกองทุนรวม 7% อยู่อันดับ 6 ของอุตสาหกรรมฯ และ ณ มิ.ย. 2565 มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (AUM) อยู่ที่ 342,390 ล้านบาท มีฐานลูกค้า Aativer 272,000 ราย AUM เฉลี่ย 1.2 ล้านบาทต่อราย

“เชื่อมั่นว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ตลาดกลับมาเติบโตและมีโอกาสขยายฐานลูกค้าอีกมาก และความชำนาญการลงทุนต่างประเทศ เช่น ระบบช่วยจัดพอร์ตลงทุน LOGOS และ Map TTB Smart รวมถึงเน้นการเติบโตกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่วนกองทุนส่วนบุคคลเน้นกลุ่มนักลงทุนไปต่างประเทศ และลดความทับซ้อนกองทุนกว่า50กองทุน คาดว่าต้นปีหน้าจะเหลือ 100-120 กองทุนจากปัจจุบัน180กองทุน ”

นายอดิศร กล่าวว่า วางกลยุทธ์การสร้างโอกาสในการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (กองทุน FIF ) ด้วยการกระจายการลงทุนและจัดพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว

โดยร่วมมือกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ ที่เชี่ยวชาญการบริหารพอร์ตการลงทุน Multi-asset ซึ่งมีแผนที่จะร่วมกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใน Multi-asset ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วนี้

ทั้งนี้ ณ มิ.ย. 2565 บริษัทมี AUM กองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) กว่า 106,950 ล้านบาท อันดับ 3 สินทรัพย์เติบโตเฉลี่ย 12.5% ต่อปี เทียบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเฉลี่ยที่ 5.2% ต่อปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา  และรักษาอันดับหนึ่งในผู้นำด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ครอบคลุมและหลากหลาย มี AUM กว่า 54,389 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 18% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ 10%

นอกจากนี้ เน้นการพัฒนานวัตกรรมประกันภัยควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ที่ง่ายและไม่ซับซ้อน เพื่อสร้างโอกาสการลงทุน  จากปัจจุบันมี 16 กองทุนที่ ร่วมกับพรูเด็นเชียลมากขึ้น รวมถึงยังมีพันธมิตรบริษัทประกันอีก 5 แห่ง  คาดว่าสิ้นปีนี้จะมี AUM ราว 20,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 12,900 ล้านบาท