ข่าวลือดีล TRUE-DTAC เมื่อวันศุกร์คือข่าวปล่อย / ติดตามประชุมเฟด 27 ก.ค.

ข่าวลือดีล TRUE-DTAC เมื่อวันศุกร์คือข่าวปล่อย / ติดตามประชุมเฟด 27 ก.ค.

นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงเฟดเกี่ยวกับมุมมองด้านเศรษฐกิจ เราคาดไม่น่ามีเซอร์ไพรซ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) 27 ก.ค. แต่สิ่งที่ตลาดจะให้ความสำคัญคือ

1) มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งตลาดอาจจะกลับมามองบวกหากเฟดส่งสัญญาณเงินเฟ้อใกล้ถึงจุดสูงสุดตามสัญญาณของการปรับดลดลงของสินค้าโภคภัณฑ์และบริการต่างๆ 2) แนวโน้มการเติบโตด้านเศรษฐกิจ ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะเผชิญการถดถอยทางเทคนิค (technical recession) //ทั้งนี้ผลประกอบการบจ.สหรัฐฯ ในหลายกลุ่ม มีขอบเขตของรายได้ที่ออกนอกสหรัฐฯ หรือมีรายได้ทั่วโลก ดังนั้นเรามองผลจากเศรษฐกิจถดถอย (recession) อาจจะมีต่อกำไรบจ.สหรัฐฯ จำกัด 

 

ดีลการควบรวม TRUE-DTAC ไม่มีผลสรุปของอนุฯ ตามข่าว และข้อสรุปสุดท้ายต้องรอมติ กสทช. เมื่อศุกร์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวลือ อนุกรรมการศึกษาการควบรวมดีล TRUE-DTAC ทั้ง 4 ชุด มีมติ 3-1 ไม่เห็นด้วยกับการควบรวม ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเรา อนุกรรมการแต่ละชุดส่งผลการศึกษาความเห็นต่อการควบรวม รวมถึงเปรียบเทียบฉากทัศน์ (scenario) ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลให้กสทช. แต่ไม่มีข้อสรุปว่าควรอนุมัติหรือไม่? ทั้งนี้อำนาจในการพิจารณาอนุมัติควบรวมในขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกสทช.เพียงผู้เดียว เรามองราคาหุ้นที่ปรับลดลงเมื่อวันศุกร์แรงเกินไป และประเมินหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวมาแกว่งรอความชัดเจน โดย TRUE มีกรอบที่ 4.46-4.90 และ DTAC มีกรอบที่ 44-47 
 

 

 

TLI มีโอกาสเข้า SET50/SET100 ด้วยเกณฑ์ Fast track ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญคือ 1) มีขนาดบริษัท (Market cap) มากกว่า 1% ของ SET  และ 2) มีขนาดใหญ่ติด 20 อันดับแรกใน SET50 ซึ่งจะทำให้ตลท. นำหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวเข้าคำนวณ SET50/SET100 ใน 3 วันทำการหลังจากเข้าซื้อขาย คล้ายที่เคยเกิดขึ้นกับ AWC (KKP และ BEAUTY หลุด SET50 และ SET100) และ CRC (BPP และ AAV หลุด SET50 และ SET100) ทั้งนี้หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปอันดับสุดท้ายใน SET50 และ SET100 คือ IRPC และ SYNEX มีโอกาสหลุดจากดัชนี หาก TLI เข้าซื้อขายแล้วปรับตัวขึ้นจนมีขนาดอยู่ใน 20 อันดับแรกของ SET50

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค JMT, HANA, PTL, PR9, TEAM, OTO, ICHI

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังแกว่งตัว 1,520-1,555 หากผ่านได้จะเพิ่มโอกาสเก็งกำไรเชิงบวกในกรอบที่สูงขึ้น ภาพใหญ่เน้นเลือกซื้อ 1) กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน) ขณะที่เก็งกำไรระยะสั้น มองหุ้นอาหาร ปลอดภัย การเงิน หุ้นที่ลงมากจากประเด็นพม่า มีความน่าสนใจ  //หุ้นแนะนำ:  IVL*, CPF*, MTC*, PTG*

แนวรับ: 1,530 / แนวต้าน : 1,555 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการสหรัฐหดตัวครั้งแรกรอบกว่า 2 ปี - ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนก.ค. ต่ำสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมิ.ย.

ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นยูโรโซนลดลงแตะ 49.6 – ลดลงสู่ระดับ 49.6 จุดในเดือนก.ค. จากระดับ 52.1 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 เดือน และต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 51.0

รัสเซียและยูเครนลงนามข้อตกลงปลดล็อกวิกฤตอาหารโลก - รัสเซียและยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงส่งออกธัญพืช ซึ่งจะช่วยคลี่คลายวิกฤตอาหารทั่วโลก โดยพิธีดังกล่าวมีขึ้นที่พระราชวังโดลมาบาห์เชในนครอิสตันบูลของตุรกี

WHO ประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ – นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวันเสาร์ (23 ก.ค.) ให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังพบระบาดแล้วในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก

 

ประเด็นติดตาม: 26 ก.ค. – US New Home Sales, US CB Consumer Confidence / 27 ก.ค. - Fed Interest Rate Decision / 28 ก.ค. – Thailand GDP, US Initial Jobless Claims / 29 ก.ค. – EU CPI & GDP

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)