กบน. เคาะตรึงราคาดีเซลลิตรละ 35 บาทถึงสิ้นเดือนก.ค.

กบน. เคาะตรึงราคาดีเซลลิตรละ 35 บาทถึงสิ้นเดือนก.ค.

กบน. ยังคงตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 35 บาท เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน และดูแลสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะที่ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันติดลบกว่า 1.15 แสนล้าน

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ทั้งนี้เพื่อมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และบริหารจัดการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้สามารถช่วยเหลือราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานขึ้น

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) ลดลง 5.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ราคา GAS OIL อยู่ที่ 134.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และลดลงเป็น 128.51  เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหลัก ๆ จากสถานการณ์โควิดในจีนยังคงกดดันตลาดซึ่งวิตกจะมีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในหลายเมืองสำคัญ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ด้วย ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง ประกอบกับ หลังจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลตลาดกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลง

นอกจากนี้ ในด้าน Supply ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ได้ประกาศกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันบางส่วน หลังจากที่ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน (Force Majeure) ในแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่หลายแห่ง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำให้แนวโน้มการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค.- ก.ย. 2565)

สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 115,045 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 75,573 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 39,472 ล้านบาท โดยกองทุนอุดหนุนดีเซลลิตรละ 2.34 บาท