กรมชลประทาน เกาะติดสถานการณ์ ‘น้ำ’ เฝ้าระวังต่อเนื่อง

กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (21 ก.ค. 65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 42,048 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 34,037 ล้าน ลบ.ม.

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (21 ก.ค. 65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 42,048 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 34,037 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,906 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 14,965 ล้าน ลบ.ม. 

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า  ในช่วงวันที่ 20–24 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงได้กำชับให้โครงการชลประทาน และสำนักเครื่องจักรกลทั่วประเทศ เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนช่วงปลายสัปดาห์  บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ พิจารณาปรับการระบายให้เหมาะสมกับสถานการณ์โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ ร่วมบูรณาการกับอาสาสมัครชลประทาน กลุ่มผู้ใช้น้ำ ช่วยกันตรวจสอบอาคารชลประทาน ประตูระบายน้ำให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งหมั่นกำจัดวัชพืชอย่างต่อเนื่อง  ที่สำคัญให้ปฏิบัติตามมาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 ทั้ง 13 มาตรการ ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด