"พาณิชย์" สยบข่าวลือ ยังไม่ไฟเขียวขึ้นราคา "มาม่า"

"พาณิชย์" สยบข่าวลือ ยังไม่ไฟเขียวขึ้นราคา "มาม่า"

พาณิชย์ยันยังไม่ให้ขึ้นราคามาม่า หลังมีข่าวมาม่าเตรียมปรับขึ้นราคาตั้งแต่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ระบุ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมต้องได้รับการอนุญาตถึงปรับราคาได้ รับกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาต้นทุน

18 ก.ค. 65 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าจากนายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ระบุว่า ราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรามาม่า จะปรับขึ้นราคาจำหน่าย จากราคาซองละ 6 บาท เป็น 7 บาท หรือปรับขึ้น 1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2565 ว่า ยังไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าหรือยี่ห้ออื่น โดยการขึ้นนั้นเป็นเพราะต้นทุนการผลิตและต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้น เช่น ราคาแป้งสาลี ราคาน้ำมันปาล์ม และราคาน้ำมันดีเซล 

ทั้งนี้ กรมยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งการปรับราคาอย่างเป็นทางการจากบริษัทผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายด้วย และกรมการค้าภายใน ยังคงเข้มงวดต่อมาตรการเชิงนโยบายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้ดูแลผู้บริโภคและประชาชนอย่างถึงที่สุด

\"พาณิชย์\" สยบข่าวลือ ยังไม่ไฟเขียวขึ้นราคา \"มาม่า\"

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีบริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายได้มีการยื่นขอปรับขึ้นราคาจำหน่ายปลีกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาราคาโดยการคำนวณต้นทุนอย่างเป็นธรรมต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคให้เกิดความสมดุลและยังไม่มีการอนุญาตให้ผู้ผลิตรายใดปรับขึ้นราคา

"บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาตปรับราคาจำหน่ายปลีก หากมีการปรับราคาจำหน่ายปลีกโดยพลการถือเป็นการกระทำความผิดกฎหมายและมีโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งกรมฯ รับทราบและเข้าใจถึงสถานการณ์ต้นทุนสินค้าที่มีการปรับสูงขึ้นจริง ทั้งในส่วนของราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าขนส่งโดยตรง"

สำหรับเรื่องการพิจารณาอนุญาตให้ปรับราคาสินค้าจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนเป็นรายกรณีไป และต้องพิจารณาอย่างรอบคอบสอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภคมากนัก โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายก็ต้องสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สินค้าต้องไม่ขาดแคลน

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะใช้ทั้งมาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางบริหารเพื่อดูแลให้ความเป็นธรรมและสมดุลสำหรับทุกฝ่ายต่อไป