ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน! “อดิศักดิ์” แห่ง “JMART” ติดโผหน้าใหม่ “เจ้าสัว” ไทย

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน! “อดิศักดิ์” แห่ง “JMART” ติดโผหน้าใหม่ “เจ้าสัว” ไทย

ผ่าอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านบาท! “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” แห่งเครือ “JMART-SINGER” แตกไลน์จากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเช่า สู่การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์-โทรคมนาคมแบบครบวงจร ก่อน “ฟอร์บส์ ไทยแลนด์” จัดติดโผอันดับ 37 เจ้าสัวหน้าใหม่ของไทย

ณ ห้วงเวลานี้ ชื่อของ “อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา” เจ้าของอาณาจักร “JMART” และ “SINGER” เป็นหนึ่งในชื่อ “อภิมหาเศรษฐี” ของไทยที่กำลังถูกจับตามอง

เนื่องจากถูกนิตยสาร “ฟอร์บส์ ประเทศไทย” จัดให้ติดอันดับที่ 37 จากจำนวน “เจ้าสัวไทย” 50 ราย โดยถือเป็นครั้งแรกที่ชื่อของ “อดิศักดิ์” ติดโผ

ฟอร์บส์ ประเทศไทย” รายงานอ้างว่า "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา"  มีมูลค่าทรัพย์สิน 835 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.94 หมื่นล้านบาท) อันเนื่องจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

“อดิศักดิ์” จากอดีตพนักงานด้านการตลาดของ “ไฟฟ้าฟิลิปส์” สู่การเปิดตัวธุรกิจ “เจมาร์ท” ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าระบบเงินผ่อน ตั้งแต่ปี 2531 โดยเดินตามรอย “ซิงเกอร์” แบรนด์ดังในสมัยนั้น กระทั่งในที่สุดเจ้าตัวได้มาเป็น “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ของ “ซิงเกอร์” ในปี 2558 

เรียกได้ว่าเส้นทางธุรกิจของ “อดิศักดิ์” ย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม ไม่ธรรมดา ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างเต็มภาคภูมิ

ธุรกิจของ “อดิศักดิ์” ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อสิ้นไตรมาส 1/2564 พบว่า มีบริษัทจดทะเบียนใน ตลท. 4 แห่ง

  • บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART

ทำธุรกิจ “โฮลดิ้ง) นอกจากนี้ยังจำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลักทุกรายและผู้ให้บริการทุกเครือข่ายรวมถึงการขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอล และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2565) มีสินทรัพย์รวม 46,536.98 ล้านบาท หนี้สินรวม 17,547.80 ล้านบาท รายได้รวม 3,738.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 325.12 ล้านบาท

มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ

บริษัทแห่งนี้มี บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 14.58% มีนายอดิศักดิ์ ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2 จำนวน 13.46% และคนสกุล “สุขุมวิทยา” ถือหุ้นอีกหลายราย เช่น นายเอกชัย สุขุมวิทยา ถือ 8.21% น.ส.จุฑามาศ สุขุมวิทยา ถือ 5.63% เป็นต้น

สำหรับ VGI ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ JMART คือบริษัทในเครือ “บีทีเอส กรุ๊ป” โดยมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ถือหุ้นใหญ่สุด 29.66% และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือรองลงมาเป็นลำดับ 2 อยู่ที่ 22.49%

  • บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT

ทำธุรกิจ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 

  1. ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริษัทให้บริการแก่ผู้ว่าจ้างที่เป็นสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งประสงค์จะให้บริษัทฯ ติดตามและดำเนินการให้ลูกหนี้ของผู้ว่าจ้างชำระคืนหนี้ ขอบเขตการให้บริการ ครอบคลุมถึงการรับจ้างติดตามและจัดเก็บหนี้ รวมถึงงานด้านกฎหมาย ได้แก่ ฟ้องและสืบทรัพย์คดี 
  2. ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทต่างๆ และนำมาบริหารจัดเก็บหนี้ 
  3. ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเน้นให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้วทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะ และเน้นปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคลธรรมดา โดยเป็นการ spin off มาจาก JMART

มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา เป็นประธานกรรมการ และมี JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 53.40%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 1/2565 มีสินทรัพย์รวม 29,568.14 ล้านบาท หนี้สินรวม 7,495.67 ล้านบาท รายได้รวม 1,099.19 ล้านบาท กำไรสุทธิ 366.96 ล้านบาท

  • บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER

ทำธุรกิจ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า ?ซิงเกอร์? เช่น จักรเย็บผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านต่างๆ นอกจากนี้ยังจำหน่ายสินค้าเชิงพาณิชย์ เช่น เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการเกษตร ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ตู้เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญ และเครื่องทำน้ำหวานเกล็ดหิมะ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และหลากหลายทั้งกลุ่มลูกค้าบ้าน และกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ ผ่านร้านค้าปลีกซึ่งเป็นสาขาของบริษัทเอง และผ่านทางตัวแทนจำหน่ายต่างๆ มากกว่าร้อยละ 80 ของยอดขายเป็นการขายแบบเช่าซื้อ โดยบริษัทให้เช่าซื้อผ่านทาง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด ซึ่ง บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 99.99

มีนายอดิศักดิ์ เป็นประธานกรรมการ มี JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 25.57% และบริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U ในเครือ “บีทีเอส กรุ๊ป” ถือหุ้น 24.13% 

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 1/2565 มีสินทรัพย์รวม 24,663.03 ล้านบาท หนี้สินรวม 9,536.26 ล้านบาท รายได้รวม 1,211 ล้านบาท กำไรสุทธิ 215.41 ล้านบาท

  • บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J 

ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมี JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 65.53% และ “บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” ถือหุ้นรองลงมาที่ 4.10% มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ถือลำดับที่ 8 อยู่ที่ 1.01%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อไตรมาส 1/2565 มีสินทรัพย์รวม 3,846.08 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 2,076.27 ล้านบาท รายได้รวม 929.07 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.63 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจในเครือที่ดำเนินการเป็นหลักมีอย่างน้อย 4 แห่ง ได้แก่ 

  • บริษัท เจมาร์ท อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด 

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2556 ทุนปัจจุบัน 15 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 187 อาคารเจมาร์ท ชั้น 5 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ตัวแทน/นายหน้าประกันภัย

ปรากฏชื่อกรรมการดังนี้

  • นางมณี สุนทรวาทิน
  • นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์
  • นายวงศกร กิตติตระกูลกาล
  • นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์
  • นายชินวัฒน์ มังกรเดชสกุล
  • นายปัญญา ชุติสิริวงศ์
  • นางสาวลัดดา วรุณธารากุล

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 มี JMT ของเครือ JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9997% ที่เหลืออยู่ในชื่อของนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา น.ส.ยุวดี พงษ์อัชฌา นายปิยะ พงษ์อัชฌา นางมณี สุนทรวาทิน ถือคนละ 0.0001%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 30,722,631 บาท รายจ่ายรวม 26,529,970 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 551,481 บาท เสียภาษีเงินได้ 407,365 บาท กำไรสุทธิ 1,233,815 บาท

  • บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด 

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2560 ทุนปัจจุบัน 138 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 187 อาคารเจมาร์ท ชั้น 8 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้

  • นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์
  • นายเอกชัย สุขุมวิทยา
  • นายสุรพันธ์ ทันตา
  • นางสาวลัดดา วรุณธารากุล

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 มี JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 95.3261% นายสุรพันธ์ ทันตา ถือ 4.6739% 

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 72,032,392 บาท รายจ่ายรวม 94,551,102 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 19,199 บาท ขาดทุนสุทธิ 21,042,768 บาท

  • บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2554 ทุนปัจจุบัน 1,112,851,210 บาท ตั้งอยู่ที่ 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล

ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้

  • นายปิยะ พงษ์อัชฌา
  • นายซอง ซู จู
  • นายวอนซอค จ็อง
  • นายเเจฮง พัค
  • นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2565 มีบริษัท เคบี คุกมิน คาร์ด จำกัด (สัญชาติเกาหลีใต้) ถือหุ้นใหญ่สุด 50.99% JMART ถือรองลงมาที่ 45.0910% และ JMT ถืออยู่ที่ 3.9190%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 969,731,415 บาท กำไรสุทธิ 101,555,842 บาท

  • บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

แปรสภาพมาจาก บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2564 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 3,270,000,000.00 บาท ตั้งอยู่ที่ 72 อาคารกสท โทรคมนาคม ชั้นที่ 20 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การให้สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค (Consumer credit granting)

ปรากฏชื่อกรรมการ ดังนี้

  • นายพิพิธ พิชัยศรทัต
  • นายสุรนิตย์ สรสุชาติ
  • นายพงษ์ศักดิ์ อัชชะกุลวิสุทธิ์
  • นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์
  • นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม
  • นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์
  • นายพีรนาถ โชควัฒนา

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2565 มี SINGER ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9999% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ นางนงลักษณ์ ลักษณะโภคิน และนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,579,161,233 บาท รายจ่ายรวม 500,352,480 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 353,294,673 บาท เสียภาษีเงินได้ 132,480,501 บาท กำไรสุทธิ 593,033,579 บาท

ส่วน ธุรกิจที่เหลือของนายอดิศักดิ์อีกอย่างน้อย 4 แห่ง ปรากฏข้อมูล ดังนี้

1.บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด ทำธุรกิจบริหารหนี้สิน มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ร่วมเป็นกรรมการ มี JMT ถือหุ้น 100% นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 2,119,457,846 บาท กำไรสุทธิ 983,811,189 บาท

2.บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ทำธุรกิจกิจกรรมการบริการเทคโนโลยี สารสนเทศ มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ร่วมเป็นกรรมการ มี JMART ถือหุ้นใหญ่สุด 66.6667% และมีกลุ่มทุนสัญชาติญี่ปุ่น “ทีไอเอส อิงค์” ร่วมถือหุ้นด้วย 16.6667% นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 56,175,397 บาท กำไรสุทธิ 1,118,234 บาท

3..บริษัท เจ พีทูพี จำกัด ทำธุรกิจกิจกรรมการบริการเทคโนโลยี สารสนเทศ มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ร่วมเป็นกรรมการ มีบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 99.97% นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2564 มีรายได้รวม 4,992 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,308 บาท

4.บริษัท เจเอส เวลธ์ จำกัด ทำธุรกิจให้เช่าและดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ มีนายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ร่วมเป็นกรรมการ มี น.ส.จุฑามาศ สุขุมวิทยา และนายเอกชัย สุขุมวิทยา ถือหุ้นใหญ่เท่ากัน คนละ 49.5% นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา และ น.ส.ยุวดี พงษ์อัชฌา ถือหุ้นคนละ 0.5% นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 1,443,238 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,959,233 บาท