สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 4 - 8 กรกฎาคม 2565

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์ วันที่ 4 - 8 กรกฎาคม 2565

ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ข้าวและไข่ไก่เพิ่มขึ้น ข้าวโพดราคาลดลง ถั่วเหลืองและปลาป่นราคาทรงตัว สุกรและไก่เนื้อราคายืนแข็ง

ข้าวโพด : ราคาลดลง

           ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ สัปดาห์นี้ ราคาลดลงจากหาบละ 777 บาท เป็นหาบละ 750 บาท เนื่องจากผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด แนวโน้มราคาเริ่มลดลงต่อเนื่อง

           ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนกันยายน 2565 ราคาอยู่ที่ 599.75 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน Safra (บริษัทเทรดเดอร์เอกชนของบราซิล) รายงานการเก็บเกี่ยวข้าวโพดรุ่นสองของประเทศบราซิล อยู่ที่ 21.8% เร็วกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาและมากกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนในประเทศบราซิลที่ยังคงบางเบาอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อการเก็บเกี่ยว ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ รายงานพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดประจำปีสำหรับฤดูกาล 2565/66 อยู่ที่ 89.9 ล้านเอเคอร์ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถึงแม้ว่าคุณภาพข้าวโพดที่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากในสหรัฐฯ ถูกปรับลดลงจาก 67% เป็น 64% แต่ปริมาณน้ำฝนในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะช่วยเพิ่มความชื้นในดิน และทำให้คุณภาพของข้าวโพดกลับมาเป็นระดับเดิมได้

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนอ่อน

 

ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

          กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 22.60 บาท รายงานจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดว่าพื้นที่เพาะปลูกเมล็ดถั่วเหลืองในสหรัฐฯ จะปรับลดลง ทำให้คาดการณ์ผลผลิตปรับลดลงด้วยเช่นกัน ขณะที่ปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจในประเทศจีนยังเป็นปัจจัยสำคัญ หากมีการถดถอยของเศรษฐกิจ อาจทำให้ความต้องการใช้และการส่งออกผลผลิตถั่วเหลืองลดลงได้ โดยคาดว่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของสหรัฐฯ พอดี ขณะที่ปริมาณซื้อในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเล็กน้อย

           ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,446.50 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 415.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ช็อตตัน รายงานความคืบหน้าการเพาะปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐฯ แล้วเสร็จภายในช่วงการเพาะปลูกที่เหมาะสม กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ รายงานพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองประจำฤดูกาล 2565/66 อยู่ที่ 88.3 ล้านเอเคอร์ ขณะที่คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงสองสัปดาห์ถัดจากนี้ จะมีปริมาณน้ำฝนที่มากในพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในตอนกลางและฝั่งตะวันออก โดยความชุ่มชื้นที่เพิ่มมากขึ้นจะช่วยฟื้นฟูระดับคุณภาพของผลผลิต ซึ่งปัจจุบันผลผลิตที่ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากอยู่ที่ 63% 

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว
 

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

           ปริมาณการจับปลาของประเทศเปรูในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องปริมาณลูกปลาที่สูงเกินกำหนดในหลายๆ พื้นที่ โดยปัจจุบันจับปลาได้ 75% ของโควต้าแล้ว ขณะที่จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อหลัก ปริมาณซื้อหน้าท่าเรือในสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ส่วนปริมาณสต๊อกหน้าท่าเรือปรับลดลง คาดว่าปลาป่นจากเปรูจะเริ่มส่งมาถึงจีนในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้

          โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 53.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 47.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 45.20 บาท

          ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 44.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 43.20 บาท

         แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
 

ข้าว : ราคาเพิ่มขึ้น
 

           ตลาดซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคาปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามา โดย ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาเพิ่มขึ้นจากตันละ 440 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 443 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 401 ดอลลาร์สหรัฐฯ

           ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,400 บาท เป็นกระสอบละ 1,450 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นจากกระสอบละ 1,280 บาท เป็นกระสอบละ 1,300 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะยืนแข็ง

 

สุกร : ราคายืนแข็ง

          สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม โดยราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มเป็นไปตามประกาศ เมื่อวันพระที่ 6 กรกฎาคม 2565 ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ผู้เลี้ยงทุกภูมิภาคยังคงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลรักษาระดับราคาสุกรขุนเท่าเดิม แม้ต้นทุนการเลี้ยงยังคงสูง โดยภาพรวมปริมาณการบริโภคเนื้อสุกรดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุขทั้งประเทศ แนวโน้มความต้องการบริโภคในวันพระถัดไปจะสูงขึ้น จากช่วงวันหยุดยาวเทศกาลบุญเข้าพรรษา ขณะที่ปริมาณผลผลิตสุกรขุนออกสู่ตลาดลดลง  

          ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 3,600 บาท (บวก/ลบ 100) 

          แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง

 

ไก่เนื้อ : ราคายืนแข็ง

           ราคาไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม ตามประกาศสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ขณะที่ราคาขายจริงตามภาวะต้นทุน ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 17.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 26.00 บาท 

          แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนแข็ง

 

ไข่ไก่ : ราคาเพิ่มขึ้น

          ราคาแนะนำ ไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ตามประกาศสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี  สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน และ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา อยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท มีผลวันที่ 6 กรกฎาคม 2565

         แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนแข็ง

-------------------------------------

ที่มา :  สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
           E-mail : [email protected]