ขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ MVP (8 กรกฎาคม 2565)

ขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ MVP (8 กรกฎาคม 2565)

หุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีทยอยรีบาวนด์ ไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง +20 จุด เป็นการช้อนซื้อหุ้นที่ปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมา มีแรงซื้อในหุ้น Big Cap. ทั้งกลุ่มค้าปลีก พลังงาน และไอซีที

ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงช่วยคลายความกังวลเงินเฟ้อ ส่วนแรงขายมีมากในหุ้นกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,562.37 จุด +20.58 จุด +1.33% มูลค่าการซื้อขาย 65,953 ลบ. ต่างชาติ +1,8112.15 ลบ. TFEX +9,781 สัญญา ตราสารหนี้ -150.51 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 346.87 จุด +1.12% ขานรับรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของเฟด ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความมุ่งมั่นสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยวันนี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 4.2 ดอลลาร์ +4.3% ปิดที่ 102.73 ดอลลาร์/บาร์เรล และกลับมายืนเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว
+ สหรัฐขาดดุลการค้าลดลง 1.3% สู่ระดับ 8.55 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 3.414 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 2.558 แสนล้านดอลลาร์
+ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มิ.ย.65 ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 41.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.65 ที่อยู่ที่ระดับ 40.2 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,144 ราย ATK 3,573 ราย มีผู้เสียชีวิต 20 ราย รักษาหาย 1,946 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- องค์การสหประชาชาติ (UN) รายงานว่าประชาชนหลายสิบล้านคนกลายเป็นคนยากจน เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก
 

- เซี่ยงไฮ้รายงานการพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 65 และทำให้วิตกว่าเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินอาจต้องกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์
- ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีพุ่งทะลุ 3% และดีดตัวสูงกว่าอายุ 5 ปีและ 10 ปี ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอย
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทของไทย อ่อนค่าสุดในรอบกว่า 6 ปี คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทของไทยอาจอ่อนค่าสู่ระดับ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ตามการไหลออกของเงินทุนต่างชาติหลังเงินสหรัฐและหยวนแข็งค่าขึ้น

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานการประชุมเดือนมิ.ย.ของเฟด ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ Rebound ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ 1,557-1,570 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK SCB BBL KTB TISCO
• ครม.เว้นภาษี VAT สำหรับผู้ประกอบการ Data Center : ICN ITEL MFEC INSET
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH
• หุ้นเด่น IAA Consensus : BBL BEM CPN KBANK

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                           MVP - บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด
                                             MAI/SERVICE (Bloomberg Consensus – บาท)

•รายงานกำไร 1Q22 ที่ 5.4 ลบ. +116%YoY, +10%QoQ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้สามารถกลับมาจัด Event ได้ เช่น Mobile expo และ Crypto expo หนุนรายได้ในธุรกิจจัด Event ให้เติบโต 50.9% ส่วนธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ที่อยู่ในประเทศลาว ปัจจุบันเปิดดำเนินการมาแล้ว 1 เดือน มีเครื่องขุด 472 เครื่อง ได้รับเหรียญบิตคอยน์จำนวน 9 BTC ถึงแม้ภาพรวมราคาบิตคอยน์ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ต้นทุนการขุดบิตคอยน์ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 17,000-18,000 USD/BTC เนื่องจากเงินเฟ้อลาวพุ่งกว่า 60% ทำให้ภาครัฐประกาศลดค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาค่าครองชีพ

•ผู้บริหารคาดกำไรครึ่งปีหลังได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของธุรกิจจัด Event โดยบริษัทมีแผนจัดงานใหญ่ เช่น Big Mountain และ Phuket Music Festival อีกทั้งอยู่บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการโปรเจ็กต์ Metaverse ID card ซึ่งเปรียบเสมือน wallet เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมต่างๆ ของ MVP อาทิ ใช้จองโรงแรมที่ร่วมโครงการกับ MVP ทำให้ในอนาคตทั้ง 2 ปัจจัยข้างต้นสามารถเชื่อมต่อกันได้เป็นการต่อยอดธุรกิจผ่านเทคโนโลยี

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 65 เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายจึงทำให้รายได้จากธุรกิจจัด Event มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์แม้ราคาเหรียญบิตคอยน์จะปรับตัวลงกว่า 70%YTD แต่ด้วยจุดคุ้มทุนที่ต่ำจะเป็นแรงหนุนให้รายได้ของธุรกิจเติบโตได้ในระยะถัดไป ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับลงมา -23%YTD ทำให้ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 17 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 36 เท่า เราจึงแนะนำ "เก็งกำไร”

 

หุ้นมีข่าว

(+) NRF (Bloomberg consensus - บาท) ชูครึ่งปีหลัง 2565 ผลงานโดดเด่นทุกธุรกิจกลับมาเติบโตบริษัทลูกกลับมามีกำไร รับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า กระตุ้นส่งออก การขนส่งกลับมาสะดวก เชื่อรายได้ปีนี้โต 50% อัตรากำไรสุทธิ 10-12% แย้มผลงานไตรมาส 2/65 เติบโตดีส่วนลงทุนเครื่องขุดเหรียญแค่ 140 เครื่อง ไม่กระทบ ต้นทุนค่าไฟถูก ยังไม่ลงทุนเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) UTP (Bloomberg consensus 18.75 บาท) ชูดีมานด์ผิวทำกล่องกระดาษเพื่อบรรจุผลิตภัณฑ์ครึ่งหลังปี 2565 ขยายตัวเด่นหลังลูกค้าทยอยส่งออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ได้อานิสงส์ส่งออก คาดปริมาณการผลิตและจำหน่ายใน Q3-4/2565 รวมมากกว่า 1.32 แสนตัน อัพเป้ารายได้ปีนี้แตะ 5.7-5.9 พันล้านบาท เดินหน้าลงทุนขยายกำลังผลิตเตรียมเยื้อกระดาษหนุนผลงาน 3 ไตรมาสแรกปี 2566 พุ่งทะยานต่อ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg consensus 14.75 บาท) จ่ออัพเป้าจำนวนนักเรียนปีนี้เพิ่มจากเดิมสิ้นปี 2565 คาดอยู่ที่ 2,750 คน จากอานิสงส์นักเรียนจีนทยอยเข้ามาศึกษาเพิ่ม หลังกระแสข่าวจีนยกเลิกการสอนภาษาอังกฤษ พร้อมเดินหน้าเปิด 2 โรงเรียนใหม่ตามแผน รองรับปีการศึกษา 2566 คาดเพิ่มจำนวนนักเรียนได้อีกกว่า 600 คน ส่วนผลงานปีนี้ยังมั่นใจเติบโต 15-20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NDR (Bloomberg consensus - บาท) โฟกัสผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าครบ 5 พันคัน ชี้เทรนด์มาแน่ จับตาต้นทุนผลิตใกล้ชิด จ้องติดตั้งโซลาร์รูฟ 2 เมกะวัตต์ลดค่าไฟ หนุนมาร์จิ้น หวังครึ่งปีหลังดันผลงานเทิร์นอะราวด์ เผยกำลังผลิตปัจจุบัน 70-80% (ที่มา ทันหุ้น)