ThaiBMA ชี้ พลังงาน-ปิโตรเคมี- อสังหาฯ แห่ออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุน หนีดบ.ขาขึ้น

ThaiBMA ชี้ พลังงาน-ปิโตรเคมี- อสังหาฯ แห่ออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุน หนีดบ.ขาขึ้น

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย คาดเอกชนเดินหน้าขายหุ้นกู้ต่อเนื่อง เพื่อล็อกต้นทุน หนีดอกเบี้ยขาขึ้น คาดเน้นออกอายุยาวมากขึ้น  มั่นใจปีนี้มูลค่าเสนอขาย1.2 ล้านล้าน ประเมินฟันด์โฟลว์ไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง

 นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565  คาดเอกชนมีความต้องการเสนอขายหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อล็อกต้นทุน เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น และคาดว่าเอกชนจะมีการออกหุ้นกู้ที่มีอายุ ยาวมากขึ้น ซึ่งสะท้อนจากครึ่งปีแรก 2565 ที่มีการออกหุ้นกู้อายุ 7 ปี  และ 10 ปี เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 

โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 326,479 ล้านบาท  โดยปัจจุบันมีบริษัทยื่นขอเสนอขายหุ้นแล้วในช่วงเดือน ก.ค. -ส.ค. มูลค่า 36,000  ล้านบาท  ดังนั้นจึงคาดว่ามูลค่าเสนอขายหุ้นกู้ของเอกชนปีนี้ จะอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นปีที่3  ที่เอกชนออกหุ้นกู้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท

ThaiBMA ชี้ พลังงาน-ปิโตรเคมี- อสังหาฯ แห่ออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุน หนีดบ.ขาขึ้น  

 

จากครึ่งปีแรก 2565  เอกเชนออกหุ้นกู้มูลค่า  660,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 521,474 ล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วน 67% ของมูลค่าการออกทั้งปี 2564 เป็นการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นทั้งกลุ่ม Investment เพิ่มขึ้น 21% ที่ 609,054 ล้านบาท และ High yield เพิ่มขึ้น 23% ที่ 51,066 ล้านบาท

นอกจากนี้พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก เอกเชนนิยมออกหุ้นกู้ที่ให้สิทธผู้ออกในการไถ่ถอนก่อนกำหนด (Callable bond) เพิ่มมากขึ้น เพื่อบริหารจัดการต้นทุนการออกหุ้นกู้ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น และน่าจะเป็นเทรนด์ต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปีนี้ด้วย

 “หุ้นกู้ครบกำหนดในครึ่งปีหลัง ซึ่ง 85% อยู่ในกลุ่ม Investment ซึ่งสัดส่วน 50% หรือ 174,476 ล้านบาท มีเครดิตเรตติ้งระดับ A- และสัดส่วน 35% เป็นเครดิตเรตติ้ง BBB อยู่ที่ 101,359 ล้านบาท และที่เหลือ เป็นกลุ่ม High Yield ราว 50,644 ล้านบาท และในรยะ 3 ปีข้างหน้า ยังมีหุ้นกู้ครบกำหนดเฉลี่ยปีละ 700,000 ล้านบาท สะท้อนได้ว่าแนวโน้มการออกหุ้นกู้เอกชนยังเพิ่มขึ้น”

นายสมจินต์ กล่าวว่า  ในครึ่งปีแรก 2565 พบว่า มีผู้ออกหุ้นกู้ระยะยาวรายใหม่ เพิ่มขึ้นเป็น 14 บริษัท จากปีก่อนที่ 7 บริษัท กระจายใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่สำคัญพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ที่กลับมาใช้การระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ระยะยาว คือ กลุ่มปิโตรเคมี เช่น PTTGC IVL BGRIM เป็นต้น้น ขณะที่กลุ่มพลังงาน ใช้การระดมทุนผ่านหุ้นกู้มากที่สุด เช่น GULF  PTT IRPC เป็นต้น และในช่วงครึ่งปีหลังยังเห็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมียังมีแผนการออกต่อเนื่อง

สำหรับในช่วงที่ธนาคารกลางประเทศใหญ่ๆขยับขึ้นดอกเบี้ยรวมถึงในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมเดือนส.ค. มีโอกาสขยับดอกเบี้ยขึ้น น่าจะยังเห็นกระแสเงินทุนต่างขาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทย มากกว่าไหลเข้า

จาก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 นักลงทุนต่างชาติ ถือครองตราสารหนี้ไทยที่ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย 15.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากสิ้นปี 2564  อยู่ที่  ที่ 14.98 ล้านล้านบาท โดยมีอายุเฉลี่ยของตราสารนี้ที่ถือครอง 8.4 ปี 

“กระแสเงินทุนของต่างชาติไหลเข้าสุทธิในช่วงต้นปี และไหลออกหลังสงครามรัสเซียและยูเครน รวมถึงเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรก 2565 นักลงทุนต่างชาติ มียอดการลงทุนสะสมสุทธิลดลง 5,175 ล้านบาท”