เช็คแนวโน้ม "ราคาทอง" ก.ค. 65 พร้อมวิธีดู "ทองยัดไส้ - ทองปลอม" ก่อนโดนหลอก

เช็คแนวโน้ม "ราคาทอง" ก.ค. 65 พร้อมวิธีดู "ทองยัดไส้ - ทองปลอม" ก่อนโดนหลอก

"ราคาทอง" แกว่ง ชวนเช็คแนวโน้ม "ราคาทองคำ" ช่วงเดือนก.ค. 65 ยังน่าลงทุนหรือไม่ พร้อมวิธีดู "ทองยัดไส้" และ "ทองปลอม" ก่อนโดนหลอก หลังมิจฉาชีพหลอกขายทองระบาด

"ราคาทอง" เริ่มมีตัวเลขขึ้นลงให้เห็นในช่วงเดือนก.ค. 65 สะท้อนปัจจัยต่างๆ ที่เริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน การระบาดของโควิด-19 ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ชวนให้นักลงทุนที่อยากเข้าซื้อหรือทำกำไรอดสงสัยไม่ได้ว่ายังมีโอกาสเข้าซื้อหรือทำกำไรช่วงนี้อยู่หรือไม่

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" สรุปข้อมูลแนวโน้ม "ราคาทองคำ" ในช่วงเดือนก.ค. นี้ จากการสัมภาษณ์ วรชัย ตั้งสิทธิ์ภักดี กรรมการสมาคมค้าทองคำ ในรายการ "กรุงเทพธุรกิจ Biz Insight" เมื่อวันที่ 4 ก.ค.65 มาเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการวิเคราะห์ ดังนี้ 

  •  แนวโน้มทองไซด์เวย์ 

ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมองว่าต้องถือเพื่อสวนทางค่าเงินที่ลดลงไปเรื่อยๆ โดยสำหรับราคาทองช่วงนี้ มีปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองเป็นขาขึ้นคือ สงคราม และราคาน้ำมันสูง แต่คิดว่ายังไม่สามารถกลับขึ้นไปที่ราคาสูงสุดที่ผ่านมาได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าสงครามที่เกิดขึ้นสามารถมีข้อยุติได้ อาจทำให้ราคาทองลงได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมของทองคำ ณ เวลานี้ มองว่าราคาทองคำยังเป็น "ไซด์เวย์" กรอบบนประมาณ 1,855 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนกรอบล่าง 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ โดยประมาณ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของราคาทอง สำหรับราคาทองคำในประเทศไทย กรอบบนอยู่ที่ราว 31,200 บาท กรอบล่างหากหลุด 30,000 บาท น่าลงทุนสะสมได้

กล่าวโดยสรุปคือ ผลตอบแทนจากทองคำยังมีโอกาสเป็นบวก ทว่าปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อ สงครามหลัก ณ ตอนนี้ ราคายังขึ้นได้แต่ขึ้นได้แบบจำกัด

  •  วิธีป้องกันการตกเป็นเหยื่อ "ทองยัดไส้" 

นอกจากนี้ วรชัย ยังได้แนะนำวิธีลดโอกาสตกเป็นเหยื่อผู้ไม่ประสงค์ดีหลอกขาย "ทองยัดไส้" สำหรับประชาชนทั่วไปว่า ในกรณีทองยัดไส้ อาจตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ยาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประสบการณ์หรือไม่เชี่ยวชาญอาจจะถูกหลอกลวงได้ ดังนั้นหากต้องการซื้อทอง แนะนำให้ซื้อกับ "ร้านทอง" ไม่ใช่บุคคลที่ 3 เนื่องจากร้านทองไม่เอาทองปลอมมาขายอย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้เสียเครดิตของร้าน นอกจากนี้ผู้ซื้อทองยังสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทองได้ทางสื่อออนไลน์ของสมาคมค้าทองคำอีกด้วย

  •  วิธีเช็ค "ทองปลอม" ด้วยตัวเอง 

ทั้งนี้ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบเบื้องต้นว่าทองคำที่มีอยู่ เป็นของปลอมหรือไม่สามารถใช้ 7 วิธี สังเกตทองคำแท้เบื้องต้นด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้

1. สังเกตขนาดทอง วิธีเป็นการสังเกตน้ำหนัก โดยต้องรู้ว่าทองคำหนัก 1 บาท หรือ 2 บาทนั้น ควรมีขนาดแค่ไหน น้ำหนักกับขนาดต้องสอดคล้องกัน 

2. วัดจากน้ำหนักของทองคำ น้ำหนักทองคำจะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ วิธีนี้ถ้าไม่มีเครื่องชั่งก็ต้องมีทองคำแท้อีกชิ้นหนึ่งไว้เทียบกัน

3. ดูตราหรือโลโก้ร้าน ใช้แว่นขยายส่องดูตามข้อหรือห่วงของทอง ทองแท้ทั่วไปจะมีการตีตราร้านไว้อย่างชัดเจนเพื่อเป็นการการันตีแหล่งที่มา หรือมีการตอกตัวเลขบอกความบริสุทธิ์ของทองไว้ด้วย เช่น 14k 18k 22k 24k โดยต้องระวังกรณีถ้าตราประทับเบลอหรือไม่ชัดเจนก็อาจเป็นของปลอมได้ ควรหลีกเลี่ยง 

4.  ทดสอบโดยใช้แม่เหล็ก ถ้าใช้แม่เหล็กแล้วดูดติดทันที ทองเส้นนั้นเป็นทองปลอมแน่นอนเพราะใส่เหล็กในปริมาณมาก แต่ถ้าเป็นทองคำแท้แม่เหล็กจะดูดไม่ติด

5.  ดูจากรอยต่อหรือจุดที่ทองเสียดสีกัน สามารถใช้แว่นขยายดูตามรอยต่อหรือจุดเสียดสี ถ้าเป็นทองคำแท้จะไม่มีรอยถลอก ลอก หรือเปลี่ยนสี แต่ถ้าเป็นทองคำชุบหรือทองปลอม ตามรอยต่อเหล่านี้จะเกิดการลอกหรือถลอกได้

6. กัดด้วยฟัน ทองคำแท้จะมีความแข็งไม่มาก ถ้ากัดก็จะเกิดรอยบุ๋มเห็นได้ชัด แต่ถ้าเป็นทองปลอม ทองผสมเหล็กหรือทองแดง หรือทองชุบ จะแข็งมาก กัดแล้วไม่เกิดรอยบุ๋ม

7. โยนลงบนกระจก ทองคำเป็นโลหะที่มีเนื้อนุ่ม ถ้าโยนไปกระทบกับกระจกจะได้ยินเสียงกระทบกันแบบนุ่มๆ ไม่มีเสียงแหลม ไม่ดัง แต่ถ้าเป็นทองปลอมเสียงจะดัง "แก๊งๆ" อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงวิธีเบื้องต้นเท่านั้น หากต้องการตรวจสอบที่แม่นยำควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือหากต้องการตรวจสอบเชิงลึก ควรนำไปตรวจสอบหาค่าความบริสุทธิ์ของโลหะได้ที่ห้องปฏิบัติการที่น่าเชื่อถืออีกครั้งหนึ่ง

--------------------------------------------------------

อ้างอิง: สถาบันอัญมณีฯ, ห้างทอง เอ เอ เยาวราช

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์