ชวนชิมพายปลานิล ‘นิลลี่พาย’ รสชาติดี หอม อร่อย

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนนำปลานิลตกไซด์ที่เลี้ยงไว้ในกระชัง มาต่อยอดแปรรูปทำเป็นขนม “นิลลี่พาย ขนมพายปลานิล” รสชาติ หอม อร่อย ส่งขายออนไลน์และออกบูธสินค้าต่างๆ กลายเป็นสินค้าขายดี ออร์เดอร์พุ่ง

ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบ้านห้วยใหญ่ หมู่ 12 บ้านห้วยใหญ่ ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งทางกลุ่มได้รวมตัวกันเลี้ยงปลานิลในกระชัง และต่อยอดเป็นโครงการ 9101 ส่งขายให้แก่พ่อค้า แม่ค้า และจำหน่ายในตลาดนัดต่างๆ จนประสบความสำเร็จกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานของกลุ่มต่างๆ จากทุกสารทิศ เพราะเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาเรียนรู้การทำเกษตร ศูนย์เรียนรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ แต่หลังจากเกิดสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด -19 ทำให้กิจกรรมของกลุ่มต้องหยุดชะงักลง ประกอบกับแนวคิดของประธานกลุ่ม เมื่อคราวจะต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวและต้อนรับกลุ่มศึกษาดูงาน จะต้องจัดเบรกอาหารว่างไว้ต้อนรับ ซึ่งจะต้องมีการออกไปหาซื้อขนมต่างๆ นำมาทำของว่าง ทำให้มีแนวคิดที่จะทำขนมเป็นของกลุ่มเอง จนสุดท้ายมองมาที่ปลานิลตกไซด์จากกระชัง เนื่องจากไม่ได้นำออกขายในช่วงสถานการณ์โควิด เพราะตลาดนัดต้องปิด ร้านค้า ร้านอาหารปิดกิจการ ทำให้ปลานิลที่เลี้ยงไว้ไม่สามารถนำออกขายได้ จึงทำให้ปลานิลที่เลี้ยงไว้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงนำปลานิลมาแปรรูปเป็นปลาส้ม และปลาไสอวน และล่าสุด ได้คิดค้นสูตรทำขนมจากปลานิล ชื่อ “ขนมนิลลี่พาย หรือขนมพายปลานิล” รูปลักษณ์ภายนอกเป็นลักษณะขนมคุกกี้รูปปลานิล แต่รสชาติข้างในเข้มข้นจากเนื้อปลา เหมือนขนมปั้นสิบ หรือขนมปลาหยอง จนประสบความสำเร็จได้รับเสียงตอบรับจากผู้ไปเยือน และลูกค้าที่เดินทางไปออกบูธขายสินค้าทั้งในและต่างจังหวัด จนมีลูกค้าสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์จำนวนมาก

โดยนางนิตยา หรือหนึ่ง ป้อมอาสา อายุ 41 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบ้านห้วยใหญ่ บอกว่า ปลานิลที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงไว้ไม่พอส่งขาย พอมีโครงการ 9101 เข้ามา ก็เข้าร่วมอีกโครงการ เพื่อให้ได้ปริมาณปลาที่มากพอสำหรับส่งขายให้กับลูกค้า ปกติจะขายส่ง กก.ละ 75 บาท และขายปลีกกก.ละ 90 บาท โดยขายตามตลาดนัดต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านปลาเผาจะสั่งเข้ามาจำนวนมาก แต่ต่อมาเกิดการระบาดของเชื้อโควิด -19 จึงทำให้มีปลาค้างอยู่ในกระชังจำนวนมาก เพราะตลาดนัดปิด ร้านอาหารปิด จึงคิดว่าต้องนำมาแปรรูปขาย โดยช่วงแรกแปรรูปเป็นปลาไสอวน และแปรรูปเป็นปลาส้ม ซึ่งยอดขายก็ดีมาก เพราะทำจากปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง ภายในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำให้มีวัตถุดิบที่สดใหม่ทุกวัน ต่อมาจึงคิดว่า เวลามีกลุ่มนักท่องเที่ยว มาท่องเที่ยวที่ผาเหนือเมฆ และมาศึกษาดูงานของกลุ่ม ทางกลุ่มจะต้องจัดอาหารว่างไว้ต้อนรับโดยการไปหาซื้อขนมจากภายนอก จึงคิดว่าทางกลุ่มควรจะมีขนมเป็นของกลุ่มเอง เพื่อประหยัดและมีรายได้เข้ากลุ่ม

จึงคิดว่าปลานิลควรจะแปรรูปเป็นขนมได้ จึงคิดค้นสูตรออกมา จนเป็นที่ถูกปากของคนมาเยือนและลูกค้าอย่างมาก
ทั้งนี้ ส่วนประกอบสำหรับการทำไส้ ประกอบด้วย ปลานิลแล่เอาเฉพาะส่วนเนื้อนำไปต้มให้สุก ใส่กระเทียมบุบลงไปดับคาวด้วย จากนั้นนำมาปั่นให้ละเอียด ,หอมแดงสับหรือบดละเอียด, หัวไชโป๊ะหวานบดหรือสับละเอียด , น้ำตาลทรายแดง ,พริกไทยป่นปั่นจากเมล็ดเอง .ข่าอ่อนบด. ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม เริ่มต้นจากการนำหอมแดงบดละเอียดลงไปผัดในกระทะจนสีออกเหลืองเหนียว ใส่เนื้อปลาบดลงไปผัดรวมกัน ตามด้วยหัวไชโป๊ะ น้ำตาลทรายแดง ข่าอ่อนบด พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม ซึ่งส่วนประกอบทุกชนิดที่ใส่ลงไปแต่ละชนิดนั้น จะต้องผัดให้เข้ากันทีละชนิด จนสุดท้ายผัดจนแห้ง จากนั้นตักใส่จานรองด้วยกระดาษซับมัน เพื่อเอาน้ำมันออก ขนมที่ได้จะไม่มีกลิ่นหืน จากนั้นนำไส้ที่ได้ไปแบ่งใส่กล่องไว้แยกเก็บไว้ โดยเวลาจะทำแยกทำทีละกล่อง โดยผัดไส้ 1 ครั้ง สามารถทำขนมได้ประมาณ 200 ตัว ก็จัดแบ่งใส่กล่อง สำหรับทำครั้งละ 100 ตัว จากนั้นทำแป้งสำหรับทำตัวปลา ซึ่งทั้งไส้ และแป้งเป็นสูตรเฉพาะที่ทางกลุ่มคิดค้นขึ้นมาเอง เมื่อได้แป้ง ก็นำมามาปั้นเป็นกลมๆจากนั้นใส่ไส้ลงไปแล้วปั้นเป็นกลมอีกครั้ง จากนั้นยัดใส่แม่พิมพ์เป็นตัวปลา จากนั้นนำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที ก็จะได้นิลลี่พายที่หอมกรุ่น นุ่ม อร่อย รสชาติเข้มข้นเหมือนกับขนมปั้นสิบ หรือปลาหยอง มีเนื้อปลาข้างใน ซึ่งใส้จะแตกต่างจากขนมลักษณะเดียวกันของเจ้าอื่นๆ เพราะเจ้าอื่นๆเวลาทำไส้ จะผสมกับแป้งไปเลย แต่ของกลุ่มผัดไส้แยกต่างหาก เวลารับประทานจะได้ความอร่อย และได้รับรู้ว่ามีเนื้อปลาด้วย โดยสามารถเก็บไว้ได้นานนับเดือน ไม่มีกลิ่นหืน ส่วนราคาขายกล่องเล็ก 6 ตัว ราคา 55 บาท และกล่องใหญ่ 10 ตัว ราคา 80 บาท ผู้ที่สนใจ หรือหน่วยงานราชการ หรือกลุ่ม องค์กรต่างๆจะจัดอาหารว่าง สามารถติดต่อได้ทางเพจ “ สินค้าโอทอปแบรนด์ในวัง จ.ตรัง” หรือโทร.086 - 2672669