อ่อนตัว แนะซื้อ SAPPE BDMS STGT (6 ก.ค. 65)

อ่อนตัว แนะซื้อ SAPPE BDMS STGT (6 ก.ค. 65)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1,544 / 1,554 จุด แนวรับ 1,530 / 1,520 จุด แนะนำซื้อ SAPPE BDMS STGT ทางเทคนิค ดัชนีฯ เกิดสัญญาณขายเพิ่ม หลังหลุดแนวรับที่ 1,544 จุด

โดยมีแนวรับต่อไปที่ 1,530 / 1,497 จุด ซึ่งเป็นระดับ SET Target ใน 3Q22E ของเรา โมเมนตัมลบวันนี้ คือ แรงขายหุ้นกลุ่มอิงน้ำมันดิบโลก (ตามการดิ่งแรงของราคาน้ำมันดิบวานนี้ -USD8-10/บาร์เรล) และหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เปิดประเทศ ค้าปลีก ท่องเที่ยว (ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศกลับมาเร่งตัวขึ้น จนอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักรอบใหม่) ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ USA รายงานการประชุม FOMC ที่ผ่านมา (FOMC Minute) และรายงานตัวเลขความต้องการจ้างงานเดือน พ.ค. JOLT’s Job รวมถึง EU รายงานยอดค้าปลีกเดือน พ.ค.

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT EA CPN KBANK MINT KTB BDMS MAJOR (แนะนำ ซื้อ KBANK) และพอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ BAFS SIS PORT (แนะนำ ขาย DOHOME ASK และ TOG ซื้อ SFT และ LST)

+ 2Q22E Earnings Play: กำไรเติบโตสูง > 15% YoY, 20% QoQ และมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย > 10% แนะนำ PTT PLANB TOP CPALL VGI KCE MINT SPRC MAJOR BEM ธนาคารกำไรเติบโตดี TTB SCB BBL

- จีนเปิดประเทศ: ท่องเที่ยว โลจิสติกส์ พลังงาน AOT AAV ERW SHR SPA EKH WICE JWD PSL RCL KCE IVL PTTGC AGE

+/- หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ / ลิสซิ่ง (รับสคบ.ประกาศเพดานดอกเบี้ย): +KKP TTB TISCO MTC TIDLOR SINGER –SAWAD BFIT S11 NCAP

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท: TFG GFPT ASIAN TWPC NER SAPPE KCE BDMS BH

+ เงินเฟ้อใกล้ผ่านจุดสูงสุด: กลุ่ม Anti-Commodities Play: SCC SCGP TASCO GULF GPSC

 

 

 

ปัจจัยลบ

- Thailand: ความกังวลต่อสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่อาจกลายเป็นการแพร่ระบาดระลอกใหม่ จะกระทบต่อการบริโภคที่ชะลอตัวของประชาชน และภาคท่องเที่ยวใน 3Q22E จากการเลื่อนแผนการเดินทางมาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ (-หุ้นกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว และขนส่ง +หุ้นกลุ่มการแพทย์)

- Oil Price: ราคาน้ำมันดิบโลกดิ่งแรงวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการกลับมาล็อกดาวน์ในบางเมืองของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน และพลังงานทดแทน แต่เป็นบวกต่อการช่วยให้แนวโน้มเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด (-กลุ่มน้ำมัน และพลังงานทดแทน +กลุ่ม Anti-Commodities Play)

 

ปัจจัยบวก

+ Bond Yields 10 ปี ลดลงต่อเนื่อง: ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) เริ่มส่งผลต่อแรงซื้อพันธบัตรรัฐบาล ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และ ทำให้ยิลด์พันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ของไทยและสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นบวกในเชิง Valuation หุ้นกลุ่ม High Growth จาก required rate of return ที่ลดลง และกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้น (+กลุ่มไฟแนนซ์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโรงไฟฟ้า)

 

ประเด็นสำคัญ

- EU: Retail Sale เดือน พ.ค. โดย Consensus คาดขยายตัว +0.4% MoM แต่หดตัว -0.4% YoY

- USA: Non-Manufacturing PMI เดือน มิ.ย. คาดที่ 54.3 (Vs เดือน พ.ค. ที่ 55.9) 

- USA: JOLTs Job Openings เดือน พ.ค. คาดที่ 11 ล้านตำแหน่ง (Vs เดือน เม.ย. 11.4 ล้านตำแหน่ง)

- USA: เฟดเผยรายงานการประชุม FOMC (FOMC Minute) ประจำเดือน มิ.ย.

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงทำจุดต่ำสุดใหม่ของปี: ดัชนีฯ เปิดบวกตามภูมิภาค ก่อนจะมีแรงขายกดดันตลาดลดลงตลอดการซื้อขาย และปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดใหม่ของปีที่ 1,541.30 จุด -18.97 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ -4.52% กลุ่มพาณิชย์ -1.93% กลุ่มธนาคาร -1.37% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -1.30% หุ้นบวก >4% BCH THG BIOTEC STGT RAM IMH L&E TRV หุ้นลบ >4% JMT JMART COM7 TIDLOR KTC GUNKUL WPH MONO SINGER

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงแรง: DJIA -0.42% S&P500 +0.16% NASDAQ +1.75% ท่ามกลำงความผันผวนสูง โดยดัชนีฯ สามารถฟื้นตัว หลังจากดิ่งแรงกว่า -2% ในช่วงต้นของการซื้อขาย โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มเทคฯ ขนาดใหญ่ เช่น Alphabet และ Meta Platforms เช่นเดียวกับกลุ่มชิป เช่น Nvidia และ AMD ขณะที่หุ้นยุโรปร่วงแรง CAC40 -2.68% DAX -2.91% FTSE -2.86% นำลงโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามการดิ่งแรงของราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกถดถอยและมาตรการล็อกดาวน์สกัด COVID-19 รอบใหม่ในจีน

- ราคาน้ำมันดิบและทองปิดลบ: WTI -USD8.93 ปิดที่ USD99.50/บาร์เรล Brent -USD10.73 ปิดที่ USD102.77/บาร์เรล น้ำมันร่วงแรง จากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัว เนื่องจากภาวะ Recession และแนวโน้มการกลับมาล็อกดาวน์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน ขณะที่ราคาทองคำดิ่งแรง -USD37.60 ปิดที่ USD1,763.90/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าสุดเกือบ 20 ปี เมื่อเทียบกับยูโร

 

ประเด็นสำคัญ

- Australia: ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.35% ในการประชุมวานนี้ ตามคาด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในขณะนี้

- Thailand: กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. 2022 อยู่ที่ระดับ 107.85 เพิ่มขึ้น 7.66% จาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าที่ตลาดคาด 7.45% และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.90% จากเดือน พ.ค. 2022 ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 5.61%

+/- Thailand: รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง สถานการณ์ COVID-19 ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ว่าการเปิดประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีโอกาสที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่จำนวนผู้ป่วยที่อาการหนักและเสียชีวิตยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้อยู่ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว พร้อมย้ำว่ายังควบคุมได้อยู่ นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ประชุมศบค. วันที่ 8 ก.ค. นี้ ขอลดจำนวนวันในกระบวนการรักษาเป็น 5+5 วัน โดยใน 5 วันหลัง เป็นการสังเกตอาการ และสามารถออกไปข้างนอกได้

+ USA: สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งประกาศมาตรการตรวจสอบการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม จากหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทคโนโลยี

+ China: ผลสำรวจมาร์กิตกับไฉซิน ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการดีดตัวขึ้นแตะระดับ 54.5 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว และเป็นการขยายตัวเดือนแรก หลังจากที่หดตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ASIAN TOP MTC KKP

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SAPPE BDMS STGT

Derivatives: แนะ Wait&see ไปก่อน