Fund Flow ไหลออก หุ้นรายงานพิเศษ VIH (6 ก.ค. 65)

Fund Flow ไหลออก หุ้นรายงานพิเศษ VIH (6 ก.ค. 65)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 1,540 จุด แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน ค้าปลีก และพลังงาน ปัจจัยกดดันมาจากการรายงาน CPI เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.66% สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 7.5% ประกอบกับความกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สูงขึ้น

ทำให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,541.30 จุด -18.97 จุด -1.22% มูลค่าการซื้อขาย 76,714 ลบ. ต่างชาติ -3,024.70 ลบ. TFEX +11,067 สัญญา ตราสารหนี้ +445.63 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอาจประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งประกาศมาตรการตรวจสอบการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทคโนโลยี
+ ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนดีดตัวขึ้นแตะระดับ 54.5 ในเดือนมิ.ย. ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และเป็นการขยายตัวเดือนแรก หลังจากที่หดตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
+ รมว.สาธารณสุขคนใหม่ของฮ่องกงคาดว่าฮ่องกงจะเปิดพรมแดนกับจีนผ่านทางเมืองเซินเจิ้นได้ก่อนวันที่ 4 ส.ค. ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดในจีน
+ รัฐบาลจีนเตรียมจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 5 แสนล้านหยวน (7.469 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซา
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,428 รายATK 4,079 มีผู้เสียชีวิต 22 ราย รักษาหาย 2,049 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 129.44 จุด -0.42% กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดบวกโดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นในช่วงท้ายตลาด ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 8.93 ดอลลาร์ -8.2% ปิดที่ 99.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. กังวลว่า เศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณถดถอยและการที่จีนมีแนวโน้มจะกลับมาล็อกดาวน์เมืองสำคัญอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลงด้วย
- ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวสูงกว่าอายุ 10 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- โตเกียวพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5,302 ราย มากกว่า 5,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงโตเกียวพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-บริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนที่ 52.0 ในเดือนมิ.ย. 2565 จากระดับ 54.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าประมาณการก่อนหน้าที่ 51.9 เพียงเล็กน้อย
- กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย.2565 พุ่ง 7.66% สูงสุดในรอบ 13 ปี จากราคาน้ำมัน-ค่าไฟฟ้า-ก๊าซหุงต้ม เพิ่มขึ้นไม่หยุด จับตาไตรมาส 3 ยังทะยานต่อ แต่ทั้งปียังยืน 4-5%

 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีวันนี้แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่เงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องส่งผลให้ Fund Flow ไหลออก มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ 1,530-1,550 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK SCB BBL KTB TISCO

 

 

 

    

 

 

 

 

 

• ครม.เว้นภาษี VAT สำหรับผู้ประกอบการ Data Center : ICN ITEL MFEC INSET

• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH
• หุ้นเด่น IAA Consensus : BBL BEM CPN KBANK

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                                                  VIH
                                 อยู่ระหว่างพิจารณา M&A เพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มเติมจากธุรกิจใหม่

•1Q65 มีรายได้1299.93 ลบ. ขยายตัว +104.5%YoY +65.80%QoQ โดยในปี 2564 และใน 1Q65 มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรักษาคนไข้โควิดผ่าน 1. บริการคัดกรองผู้ป่วยโควิด 2. ร่วมมือกับโรงแรมเปิด Hospitel กว่า 14 แห่ง 3. จัดโครงการ Factory Sandbox ในการคัดกรองและฉีดวัคซีนในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และ 4. บริการ Alternative Quarantine ให้แก่นักท่องเที่ยว รวมถึงมีรายได้ที่ขยายตัวจากคนไข้ OPD/IPD ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายงานกำไร 1Q65 ที่ 371.96 ลบ ขยายตัว +501.75%YoY +509.57%QoQ

•ผู้บริหารตั้งเป้ากำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในปี 2565 ผ่านการลดคนไข้แบบ Capitation หรือคนไข้ประกันสังคม และเพิ่มคนไข้แบบ OPD/IPD หรือคนไข้ทั่วไปที่มี margin สูงกว่า รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ M&A เพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มเติมจากธุรกิจใหม่และกระจายความเสี่ยง

•ความเห็น มีมุมมอง Neutral ต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มลดความรุนแรงลงทำให้รายได้ในส่วนนี้มีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามหากพิจารณาการเติบโตของกำไรในช่วง 5 ปีย้อนหลังก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 พบว่า VIH มีกำไรเติบโต 18% มากกว่าในตลาดกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่ 12% นอกจากนี้ VIH มีการกระจายความเสี่ยงผ่านการวางกลยุทธ์ให้โรงพยาบาล Vichaivej แต่ละสาขามีความโดนเด่นทางการแพทย์ที่แตกต่างกับเพื่อรองรับผู้ป่วยหลายหลาย อาทิ โรงพยาบาล Vichaivej สาขาอ้อมน้อยซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร และนครปฐม จึงเกิดอุบัติเหตุในบริเวณนี้เป็นประจำทำให้สาขานี้มีความโดนเด่นในศูนย์กระดูกและสมอง และโรงพยาบาล Vichaivej สาขาสมุทรสาครซึ่งเป็นบริเวณที่มีความหนาแน่นของโรงงานอุตสาหกรรมมากจึงมีหน่วยงานตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ซึ่งการกระจายความเสี่ยงนี้ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อกำไรจากบริการคนไข้ทั่วไป

 

หุ้นมีข่าว

(+) WICE (Bloomberg consensus 22.50 บาท) รับเต็มๆ สงบศึกสงครามการค้า สหรัฐปลดกำแพงภาษีจีน ชี้มีสาขาที่จีน 4 สาขา สัดส่วนส่งออกสหรัฐสูง เตรียมรับคำสั่งซื้อเพิ่มทางตรง แถมได้ทางอ้อมจากเศรษฐกิจจีนฟื้น ทำให้การขนส่งไปจีนมากขึ้น ด้านนักวิเคราะห์เปิดโผหุ้นรับอานิสงส์ อิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสกลับมา แต่ต้องติดตามดีมานด์ และสต็อกสินค้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MC (Bloomberg consensus 11.75 บาท) แย้มผลงานโค้งสุดท้ายสดใสต่อเนื่อง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้แตะ 3,000 ล้านบาท พร้อมคุมต้นทุนรักษามาร์จิ้น เดินหน้าเปิดสาขา Mc Outlet ครบ 72 สาขา ตามแผน ด้านโบรกมองแนวโน้มกำไรปี 2565 มีโอกาสเติบโตดีกว่าคาด จากการฟื้นตัวของ SSSG การเพิ่มขึ้นของราคาต้นทุนวัตถุดิบยังไม่ส่งผลกระทบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IMH (Bloomberg consensus 29.15 บาท) ลั่นจิ๋วแต่แจ๋ว ชี้ปีหน้าเตรียมแปลงร่างเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ หลังปิดดีล M&A ปีนี้ พร้อมเปิดรายชื่อผู้บริหารโรงพยาบาล IMG แบริ่งในเดือนตุลาคม แย้มยอดผู้ป่วยโควิดปัจจุบันพุ่งเต็มทุกเตียง เร่งจับมือร่วมกับโรงแรมรองรับเพิ่มอีก 400 เตียง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg consensus 14.05 บาท) โชว์ครึ่งปีแรกกวาดยอดขายบ้าน-คอนโดคึก 17,772 ล้านบาท ทะลุ 51% ของเป้าหมายทั้งปี หลังไตรมาส 2/2565 ทำผลงานกว่า 9,623 ล้านบาท มั่นใจครึ่งปีหลังตลาดยังแกร่งจากหลายปัจจัยบวก เตรียมเปิดคอนโด-บ้านเพิ่มอีก 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 26,500 ล้านบาท หนุนยอดขายทะลุ 35,000 ล้านบาท สร้างสถิติ All Time High (ที่มา ทันหุ้น)