Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q65F ของบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่ (Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*, Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB)*,KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB)* และ SVI (SVI.BK/SVI TB)) จะอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท (+25YoY, +7% QoQ)

ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักใน 1H65F อยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท (+31% YoY) เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น 16% YoY ใน 1H65F ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรของ SVI จะเติบโตสูงที่สุด YoY ที่ 83% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น 49% YoY จากฐานที่ต่ำเพราะการระบาดของ COVID-19 และมีการรวมรายได้จาก Tohoku Solution Co., Ltd เข้ามาในงบรวมของบริษัทด้วย ในขณะที่ HANA จะเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มที่กำไรลดลง YoY เพราะผลขาดทุนจาก Powermaster Semiconductors (PMS) ทั้งนี้ เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่าผลประกอบการของทุกบริษัทจะดีขึ้น โดยสาเหตุสำคัญมาจากการอ่อนค่าของเงินบาท เราคาดว่ากำไรของ SVI และ KCE จะโตโดดเด่น QoQ ที่ประมาณ 29% และ 20% ตามลำดับ

 

ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตา

ดัชนีเศรษฐกิจบางตัวทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ซึ่งได้แก่ i) อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ และ EU (Figure 2-3) ii) GDP สหรัฐที่คาดว่าจะขยายตัวลดลงจาก 3.7% ในปี 2565 เหลือ 2.3% ในปี 2566 และ GDP ของ EU ที่คาดว่าจะขยายตัวลดลงจาก 2.8% ในปี 2565 เหลือ 2.3% ในปี 2566 iii) ดัชนี ISM ภาคการผลิตลดลงเหลือ 53.0 ในเดือนมิถุนายน 2565 จากระดับสูงสุดที่ 63.7 ในเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งอาจจะทำให้ยอดขาย semiconductor โลกชะลอตัวลง (ค่าสหสัมพันธ์อยู่ที่ 0.6;Figure 6) อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น เพราะเศรษฐกิจจีนน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q65 และโมเมนตัมการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นใน 2H65 โดยคาดว่า GDP จะขยายตัว 4.4% ในปี 2565 และ 5.1% ในปี 2566

Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

 

 

Data center และ EVs มีแนวโน้มสดใส

ทีมวิจัย KGI Taiwan ยังคงมองบวกกับ i) อัตราการเติบโตของการส่งออก server ทั่วโลกที่คาดไว้ที่ 8% และ 10% ในปี 2565-2566 ตามงบลงทุน (CAPEX) ของ CSPs เจ้าใหญ่ที่จะเพิ่มขึ้น 17% YoY ในปี 2565 และ 6% ในปี 2566 ii) แนวโน้มยานยนต์ไฟฟ้า โดยยอดขาย EV จะโตอย่างโดดเด่นเป็น 10.73 ล้านคัน (+65% YoY) และคาดว่า EV penetration rate จะอยู่ที่ 13.2% และเพิ่มเป็น 22.8% ภายในปี 2568 ซึ่งจะโตมากกว่าประมาณการยอดขายรถยนต์โลกในปี 2565 ที่คาดว่าจะทรงตัว YoY อยู่ที่ 81.13 ล้านคัน ในขณะเดียวกัน KGI Taiwan มีมุมมองที่ระมัดระวังกับ i) แนวโน้มการส่งออก smartphone โดยได้ปรับลดประมาณการยอดส่งออก smartphone ทั่วโลกในปี 2565 ลงจากเดิม 1,404 ล้านเครื่อง (-2% YoY) เหลือ
1,326 ล้านเครื่อง (-8% YoY) และปรับลดประมาณการยอดส่งออก smartphone ระบบ 5G ลงจากเดิม 658 ล้านเครื่อง เหลือ 650 ล้านเครื่อง ซึ่งจะคิดเป็น penetration rate ที่49% และ ii) แนวโน้มการส่งออก PC โดยได้ปรับลดประมาณการยอดส่งออก PC ทั่วโลกในปี 2565 ลงเหลือ 307.5 ล้านเครื่อง (-10%YoY) จากเดิม 320.3 ล้านเครื่อง (-6% YoY) เพื่อสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์ใน 2H65 จากภาวะเงินเฟ้อที่สูงในสหรัฐ และยุโรป รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจด้วย

 

De-rate PER เพื่อสะท้อนความเสี่ยงบางประการ

เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยความเสี่ยง เราจึงทำการประเมินบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่ โดยอิงจากที่ตั้งโรงงาน ตัวสินค้า และอัตรากำไรเพื่อพิจารณากำหนด PER ที่เหมาะสม (Figure 24-25) ดังนั้น เราจึงกำหนด PER แบบมี premium ให้กับ DELTA (+0.75 S.D) และ KCE (+0.5 S.D) เพื่อสะท้อนพอร์ตที่แข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งเกาะตามกระแสโลก ในขณะที่เรากำหนด PER ของ HANA เท่ากับค่าเฉลี่ย และกำหนด PER ของ SVI แบบมี discount (-0.75 S.D.) เพื่อสะท้อนแนวโน้มอุตสาหกรรม และอัตรากำไรที่ด้อยกว่า

Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

 

Electronics Sector ประมาณการ 2Q65: กำไรจากธุรกิจหลักจะเพิ่มขึ้นทั้งYoY และ QoQ

 

 

Valuation & action

จากความไม่แน่นอนของปัจจัยมหภาค และแนวโน้มบวกของบางกลุ่มในอุตสาหกรรม เราจึงยังคงให้น้ำหนักกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ “เท่ากับตลาด” โดยเลือก DELTA (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 410 บาท) และ KCE (แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 69 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มจากสถานะที่ดีของบริษัท

 

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, การจัดส่งสินค้าล่าช้า, ขาดแคลนวัตถุดิบ, และ เงินบาทแข็งค่าขึ้น