บิตคอยน์ดิ่งหนักเกือบ7% เคลื่อนไหวที่ 18,834 ดอลล์

บิตคอยน์ดิ่งหนักเกือบ7% เคลื่อนไหวที่ 18,834 ดอลล์

บิตคอยน์ เทรดที่เว็บไซต์อินเวสต์ติง ดอท คอม เมื่อเวลา 05.23 น.ของวันนี้ (1ก.ค.)ปรับตัวร่วงลงอย่างแรง 6.82% เคลื่อนไหวที่ 18,834.3 ดอลลาร์

การเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างรุนแรงของราคาบิตคอยน์เป็นผลมาจากความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย โดยนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย หลังจากที่หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1/65

ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันวานนี้ว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม

ด้านบริษัทแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ โค หรือพิมโค ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ระบุเตือนว่า สหรัฐอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ขณะที่ยุโรปมีแนวโน้มเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าสหรัฐ

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้รับผลกระทบจากการที่เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการให้บริการด้านการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นชั่วคราว เนื่องจากตลาดประสบความผันผวนอย่างหนัก

ด้านบริษัททรี แอโรว์ส แคปิตอล (Three Arrows Capital หรือ 3AC) ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสิงคโปร์ที่เน้นลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้มูลค่ากว่า 670 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ บริษัทวอยเอเจอร์ ดิจิทัล (Voyager Digital) ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลยืนยันว่า 3AC ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้จำนวน 350 ล้านดอลลาร์ในรูป USD Coin (USDC) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ตรึงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐ และเงินกู้ในรูปเหรียญบิตคอยน์จำนวน 15,250 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าในขณะนี้ประมาณ 323 ล้านดอลลาร์

3AC ประสบปัญหาการเงินจนไม่สามารถชำระหนี้ หลังจากตลาดคริปโทฯ เผชิญภาวะผันผวนอย่างหนักเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลลดลงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์

โดยขณะนี้มูลค่ารวมของตลาดคริปโทฯ อยู่ที่ 9.50 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเคยทำไว้ในเดือนพ.ย.2564