เครือสหพัฒน์ ครวญผลิตสินค้าเริ่ม “ขาดทุน” ส่งสัญญาณตรึงราคาเดิมไม่ไหวแล้ว

เครือสหพัฒน์ ครวญผลิตสินค้าเริ่ม “ขาดทุน” ส่งสัญญาณตรึงราคาเดิมไม่ไหวแล้ว

หลังกระทรวงพาณิชย์ส่งสัญญาณให้ประชาชนทราบว่า 1 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป สินค้าหลายรายการจะทยอยปรับ “ขึ้นราคา” ซึ่งจะมีผลต่อภาระค่าครองชีพผู้บริโภคเต็มๆ เครือสหพัฒน์ ยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคบริโภค ยังเดินหน้าส่งสัญญาณการผลิต เริ่มขาดทุน แบกภาระตรึงราคาไม่ไหวแล้ว

“เครือสหพัฒน์” ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีสินค้าจำเป็นภายใต้อาณาจักรมากมาย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ซื่อสัตย์ มาม่า โอเค ผงซักฟอก “เปา” เอสเซ้นส์ น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ ยาสีฟัน แปรงสีฟันซิสเทมมา ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ฯ ซึ่งที่ผ่านมาการผลิตกำลังเผชิญภาวะ “ต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง” ทำบริษัทต้องขอความเมตตาจากรัฐช่วย “ไฟเขียว” ให้สินค้าบางรายการ เช่น มาม่า ผงซักฟอก ขึ้นราคาด้วย

ล่าสุด ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า แม้แนวโน้มต้นทุนการผลิตสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่สินค้าที่จำหน่ายในงาน “สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26” นับพันรายการ ยังคงยืนหนึ่งในการจำหน่าย “ราคาเดิม”

งานสหกรุ๊ปแฟร์ ปีนี้จัดขึ้น ยังคงคอนเซปต์ในการช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบด้านภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับงาน 26 ปีก่อน จัดขึ้นท่ามกลางวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งภาคธุรกิจต้องเผชิญกับการลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้ต้องหาวิธีการ “กอบกู้” สถานการณ์ของ “ภาคการส่งออก” ปีนั้นจึงจัดงานด้วยคอนเซปต์ Export

เครือสหพัฒน์ ครวญผลิตสินค้าเริ่ม “ขาดทุน” ส่งสัญญาณตรึงราคาเดิมไม่ไหวแล้ว นอกจากนี้ การจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26 ยังเป็นการคืนกิจกรรม On Site อีกครั้ง หลังจากโควิด-19 กระทบ ทำให้ไม่สามารถจัดอีเวนท์ในพื้นที่ได้ มีเพียงค้าขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น

“ปีนี้เราจัดงานยิ่งใหญ่กว่าทุกปี รูปแบบการจัดงานปีนี้เน้นนำสินค้ามาขายราคาเดิมทั้งหมด เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค เพราะขณะนี้ภาวะที่เกิดขึ้นคือสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ”

ส่วนสินค้าอื่นๆที่เป็นประเด็นร้อนแรง โดยเฉพาะบะหมี่ฯ และผงซักฟอก ธรรมรัตน์ แจงว่า ต้นทุนวัตถุดิบทั้ง 2 รายการปรับตัวขึ้นสูงมาก บะหมี่ฯ คาดไม่ต่ำกว่า 10% แต่หากเจาะเป็นรายวัตถุดิบ เช่น แป้งสาลี น้ำมันปาล์ม ฯ ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าตัว ทางเครือจึงมีการขอภาครัฐปรับขึ้นราคาจากที่ขายอยู่ 6 บาท ส่วนที่เหมาะสมจะเป็นเท่าใด ต้องให้บริษัทในเครือที่ดูแลชี้แจง

เครือสหพัฒน์ ครวญผลิตสินค้าเริ่ม “ขาดทุน” ส่งสัญญาณตรึงราคาเดิมไม่ไหวแล้ว บะหมี่ฯ ผงซักฟอก เป็นสินค้าควบคุม ช่วงนี้ต้นทุนการผลิตต้องเผชิญความยากบากหน่อย ส่วนสินค้าที่ไม่มีการควบคุม ยังมีกลไกตลาดเป็นตัวแปรเรื่องราคาสินค้า ในเวลานี้ทุกคนจะพยายามตรึงราคาสินค้าให้นานสุดไหม เป็นสิ่งที่รับปากไม่ได้ว่าจะขึ้นหรือไม่ขึ้นราคา แต่ในมิติธุรกิจ เมื่อขึ้นราคาไม่ได้ เราจะแบกต้นทุนไม่ไหว แต่เราต้องดูแลลูกค้า ซึ่งทำได้อีกระยะเท่านั้น หากวัตถุดิบยังขึ้นแบบนี้อต่อไป เราจะลำบาก มาม่าขึ้นซองละ 1 บาท ใช่ว่าจะดี เพราะต้นทุนอาจสูงกว่านี้”

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลควบคุมผู้ประกอบการ ยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาสินค้า เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เนื่องจากรัฐต้องดูแลประชาชน ส่วนผู้บริโภคยังจำเป็นต้องซื้อสินค้าต่อไป ขณะที่บริษัทไม่อยู่ในจุดที่ทำกำไรแล้ว ตอนนี้เริ่มขาดทุนแล้ว การขึ้นราคาอาจเกิดขึ้นเร็วๆนี้