ไทย-ซาอุ เดินหน้าการค้าการลงทุนต่อเนื่อง หลังฟื้นความสัมพันธ์สู่ขั้นปกติ

ไทย-ซาอุ เดินหน้าการค้าการลงทุนต่อเนื่อง หลังฟื้นความสัมพันธ์สู่ขั้นปกติ

นักธุรกิจ ซาอุฯ ยกทัพ บุกไทย เจรจาธุรกิจไทย 4-8 ก.ค. ด้านไทยเตรียมพร้อม เปิดไอคอนสยาม จับคู่เจรจาธุรกิจ บินต่อสู่ภูเก็ตเปิดเจรจาธุรกิจบันเทิงและการท่องเที่ยว หวังเพิ่มยอดส่งออกให้ได้ตามเป้า

ภายหลังที่ไทยและซาอุอาระเบียฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต และฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีนำคณะภาครัฐและเอกชนเปิดสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย มีความคืบหน้าทั้งการค้าและการลงทุนระหว่าง  2  ประเทศเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนำคณะไปเยือนซาอุดีอาระเบีย  เพื่อหาลู่ทางในการทำการค้าระหว่างไทยและซาอุเมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่าน  

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เองก็มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างไทยและซาอุฯมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้าระหว่างไทยกับซาอุ (Joint Trade Committee หรือ JTC ) เพื่อเป็นเวทีในการเจรจาการค้าระหว่างกันอย่างเป็นทางการและรูปธรรม เพื่อปูทางไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ระหว่างกันในอนาคต  

นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าและบริการของไทยในซาอุฯ โดยมีมูลค่าการสั่งซ้อสินค้าทั้งสิ้น 128.10 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าการสั่งซื้อทันที 14.14 ล้านบาท และมูลค่าการสั่งซื้อภายใน 1 ปี 113.96 ล้านบาท การเสริมสร้างคาวามรู้ความเข้าใจในเรื่องตลาดซาอุฯให้กับผู้ประกอบการไทยและเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในศักยภาพของตลาดไทยแก่ผู้ประกอบการซาอุฯ 

ล่าสุดทางกระทรวงพาณิชย์ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่า หอการค้ามณฑลริยาด จะจัดทัพนักธุรกิจซาอุฯจำนวน 80 รายเดินทางมาเยือนไทยในระหว่างวันที่ 4-8 ก.ค.2565 เพื่อเจรจาธุรกิจกับภาคเอกชนไทย ซึ่งในส่วนของไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมเพื่อเตรียมการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างไทยและซาอุ โดยมี”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ ภาคเอกชน ทั้งหอการค้าไทย สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และสมาคมการค้าอื่น มาประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศเป็นกรณีพิเศษ  

สำหรับกลุ่มสินค้าเป้าหมายที่จะมีการเจรจาและลงทุน ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรม โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสน การท่องเที่ยวและบันเทิง ทองคำและอัญมณี การเกษตร ทรัพยากรมนุษย์ การแพทย์ อาหาร ผ้า แฟชั่นและเครื่องประดับ การเสริมความงาม การดูแลสุขภาพ การลงทุน การค้าอิเล็กทรอนิกส์  การบริหารโลจิสติกส์ น้ำหอมและเครื่องหอม ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ และการค้าปลีก จัดทำระบบข้อมูลตลาดซาอุฯเชิงลึก 

 

กิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ครั้งนี้คือ การนำคณะธุรกิจซาอุฯ เยี่ยมชมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล  ซึ่งอาหารฮาลาล ถือเป็นสินค้าสำคัญของไทยที่จะเจาะตลาดซาอุฯได้เพิ่มเติม  นอกจากนี้ในวันที่ 6 ก.ย.ที่ ไอคอนสยาม จะมีกิจกรรม Thai-Saui Business Forum และBusiness Matching เพื่อจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจซาอุ  จากนั้น 7 ก.ค.ก็จะมีการนำคณะนักธุรกิจซาอุฯในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบันเทิงบินไปยังจ.ภูเก็ตเพื่อเจรจาการค้าการท่องเที่ยว 

ถือว่าเป็นการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการทำการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังที่ความสัมพันธ์ต้องหยุดชะงักไปนานกว่า 32 ปี ซึ่ง”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ “ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปซาอุดิอาระเบียในปี 65 เพิ่มขึ้น 6.2% จากปี 64 ที่มีการส่งออกมูลค่า 51,500 ล้านบาท โดยเห็นว่าสินค้าไทยที่มีโอกาสส่งออกไปยังซาอุฯ เพื่อทำรายได้เข้าประเทศมี 3 กลุ่ม คือ เกษตร อุตสาหกรรม และบริการ 

สำหรับสินค้าไทยที่ส่งออกไปซาอุฯ 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้, ผลิตภัณฑ์ยาง, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป , เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ขณะที่สินค้าไทยนำเข้าจากซาอุฯ 5 อันดับแรกได้แก่ น้ำมันดิบ, เคมีภัณฑ์ , ปุ๋ยและยากจำกัดศัตรูพืชและสัตว์ ,น้ำมันสำเร็จรูป, สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์