พาณิชย์คาด เปิดประเทศ ท่องเที่ยวฟื้น ดึงจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่ม

พาณิชย์คาด เปิดประเทศ ท่องเที่ยวฟื้น ดึงจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่ม

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย บริษัทตั้งใหม่ พ.ค.65 มีจำนวน 5,917 ราย เพิ่มขึ้น 6% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ คาดแนวโน้มยังดี โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รองรับเปิดประเทศเต็มรูปแบบและเราเที่ยวด้วยกันเฟส4 แนะระวังผลกระทบจากราคาน้ำมัน

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพ.ค.2565 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,917 ราย เทียบกับเม.ย.2565 เพิ่มขึ้น 10% และเทียบกับพ.ค.2564 เพิ่มขึ้น 6% ซึ่งเป็นการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวลงไปในเดือนเม.ย.2565 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท

ประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ

พาณิชย์คาด เปิดประเทศ ท่องเที่ยวฟื้น ดึงจัดตั้งธุรกิจใหม่เพิ่ม

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,102 ราย เมื่อเทียบกับเม.ย.2565 เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับพ.ค.2564 เพิ่มขึ้น 39% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 3,760.77 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  ณ วันที่ 31 พ.ค.2565  จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ

“กรมคาดว่า แนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ในระยะต่อไป คาดว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม การค้าขาย ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจบันเทิง เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และรัฐบาลมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้น”

อย่างไรก็ตามต้องระวังผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น การยกเลิกตรึงราคาก๊าซหุงต้ม การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) และสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเป็นปัจจัยลบ กระทบต่อการประกอบธุรกิจ ซึ่ง กรมฯ ยังคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 อยู่ประมาณที่ 40,000 ราย และตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70,000–75,000 ราย