นายกฯพบทีมเศรษฐกิจรับฟังความคืบหน้าดึงลงทุน - พบผู้บริหาร Foxconn คุยแผน EV

นายกฯพบทีมเศรษฐกิจรับฟังความคืบหน้าดึงลงทุน - พบผู้บริหาร Foxconn คุยแผน EV

นายกฯหารือทีมเศรษฐกิจรับฟังความคืบหน้าการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ หวังต่อยอดสู่นโยบาย Better and Green Thailand 2030 พร้อมหารือ Foxconn Technology Group

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่าในช่วงบ่ายวันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ห้องโดมสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ม.ล.ชโยทิต กฤษดากร ผู้แทนการค้าไทย 

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในมิติต่างๆ รวมถึงความคืบหน้าการปฏิบัติการเชิงรุกที่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานในช่วงต่อจากนี้ ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีโดยเฉพาะเรื่องการฟื้นฟูและการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืนตามนโยบาย “Better and Green Thailand 2030”

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลรายงานว่าการหารือในวันนี้ม.ล.ชโยทิต กฤษดากร ผู้แทนการค้าไทย ได้รายงานนายกรัฐมนตรีถึงความคืบหน้าในการชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสาขายานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้มีการดึงเอกชนรายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุน

นายกฯพบทีมเศรษฐกิจรับฟังความคืบหน้าดึงลงทุน - พบผู้บริหาร Foxconn คุยแผน EV

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายยัง หลิว (Mr. Young Liu) ประธานกรรมการ บริษัท Foxconn Technology Group เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ภายหลังการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับประธานฯ Foxconn อีกครั้ง หลังจากที่พบกันในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Foxconn Technology Group เมื่อเดือนพฤษภาคม 2564

ซึ่งนำไปสู่การจัดตั้งบริษัท Horizon Plus ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของทั้งสองบริษัท และขอบคุณที่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค รวมทั้งกล่าวชื่นชมบทบาทของผู้บริหารบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ และบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้าอัจฉริยะและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งจะมีส่วนช่วยนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยได้เป็นอย่างดี 

ประธานฯ Foxconn รู้สึกยินดีที่เดินทางมาเยือนไทยอีกครั้ง เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันกับของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ จะช่วยผลักดันความร่วมมือด้านตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ในไทยให้ก้าวหน้า

ทั้งนี้ ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่จะเป็นโอกาสสำคัญของไทย ในการสร้างการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ โดยบริษัทฯ พร้อมแสวงหาความร่วมมือกับไทยอย่างครอบคลุมทั้งห่วงโซ่การผลิต ทั้งในแง่การผลิตและนวัตกรรมทางด้าน software ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ของโลก 

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความร่วมมือในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตแพลตฟอร์ม Mobility-In-Harmony ซึ่งทั้งสองต่างเห็นพ้องว่าจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศให้เติบโต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ตลอดจนช่วยขยายอัตราการจ้างงาน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประธานฯ Foxconn ชื่นชมโครงการ EEC ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า EEC เป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยอย่างก้าวกระโดด และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของประเทศ จึงขอเชิญชวนบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและออกแบบชิ้นส่วนอุปกรณ์อัจฉริยะและเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกพิจารณาประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ซึ่ง ประธานฯ Foxconn ยินดีสนับสนุนความร่วมมือกับไทยและผู้ประกอบการในท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ในภูมิภาคอาเซียน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำนโยบายในการสนับสนุน และดูแลนักลงทุนในไทยอย่างเท่าเทียม โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการ เช่น โครงการ Factory Sandbox และการจัดหาวัคซีนให้กับพนักงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการยังสามารถดำเนินกิจการได้อย่างสะดวก จึงขอให้เชื่อมั่นว่าไม่ว่าจะมีความท้าทายอื่นใด รัฐบาลจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนให้สามารถดำเนินกิจการได้โดยราบรื่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย