อาจแกว่งตัว แต่ลุ้นยืนเหนือ 1,580 จุด เพื่อยกกรอบการเก็งกำไรขึ้น 

อาจแกว่งตัว แต่ลุ้นยืนเหนือ 1,580 จุด เพื่อยกกรอบการเก็งกำไรขึ้น 

ยังเน้นเลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่แนวโน้มกำไรเป็นบวก และกลุ่มที่เป็นเป้าหมาย Window Dressing ตลาดหุ้นโลกมีแรงขายทำกำไรสลับหลังฟื้นตัวแรงในช่วง 2-3 วันทำการที่ผ่านมา

สำหรับหุ้นไทย SET Index แม้อาจผันผวนบริเวณแนวต้าน 1,580 จุด ที่เป็นจุดต่ำสุดเมื่อ พ.ค. แต่กลุ่มหุ้นใหญ่ SET50 มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งกว่า และสามารถยืนเหนือแนวต้าน 950 จุด ได้อย่างมั่นคง ทำให้ภาพรวมยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัวที่สามรถเลือกเก็งกำไรได้ เน้นที่ 1) กลุ่มที่โมเมนตัมกำไรเป็นขาขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า อาหาร และ 2) กลุ่มที่เป็นเป้าหมาย Window dressing ได้แก่ การเงิน โรงไฟฟ้า ค้าปลีก สื่อสาร ซึ่งหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ SPA, VRANDA, MBK, CPN, CRC, CPF, TU, KSL, MTC, TIDLOR, SAWAD, BAM, SCGP, BGRIM, GPSC, MAKRO, CPALL, ADVANC,  เป็นต้น

ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงแต่ต้องติดตามการยกเลิกคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงจากภาวะอุปทานตึงตัว โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1) ทิศทางการประชุมกลุ่ม G7 ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมาตรการควบคุมราคาขายน้ำมันดิบจากรัสเซียเพื่อสร้างแรงกดดันด้านรายได้ 2) การประชุมกลุ่มโอเปคและพันธมิตร 30 มิ.ย. และ 3) การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน 28 มิ.ย. ซึ่งอาจปูทางไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน ซึ่งเรามองว่าอาจจะเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่จะช่วยกดให้ราคาน้ำมันลดระดับลงมาซื้อขายต่ำกว่า 100 เหรียญ/บาร์เรล
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นประกัน TIPH, BLA, TVI, THREL (แค่เก็งกำไรรับไทยประกันเข้า IPO) 6) หุ้นพลังงาน-ปิโตรที่ไม่กระทบจากการขอความร่วมมือ IVL, OR 7) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แรงทำกำไรระยะสั้นอาจกด SET แกว่งตัว 1,570-1,580 จุด แต่คาดยังไม่เสียโมเมนตัมเชิงบวก เน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่โมเมนตัมกำไรเป็นบวก (ท่องเที่ยว อาหาร) ทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นในช่วงครึ่งหลัง (กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก การเงิน) และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน) //หุ้นแนะนำ:  SPA*, VRANDA*, SAWAD*, MAKRO*


แนวรับ: 1,565-1,570 / แนวต้าน : 1,590 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเพิ่มขึ้น 0.7% - ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน

ยกเลิก Thailand Pass สำหรับชาวต่างชาติ 1 ก.ค. 65- การเดินทางเข้าประเทศกลับสู่ภาวะปกติเช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ไทยเข้าสู่ระยะหลังการระบาดใหญ่(Post-Pandemic) 1 ก.ค. 65 – ปลัดกระทรวงสาธารณสุขระบุการระบาดใหญ่ในประเทศไทยคงไม่มีแล้ว แต่การจะประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นต้องรอองค์การอนามัยโลก (WHO)

IATA คาดนทท.ต่างชาติเข้าไทยปีนี้เกินกว่า 10 ล้านคน –โดยผู้เดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 26 มิ.ย. 2565 รวม 2,027,230 คน โดยคนอินเดียเข้ามาไทยมากสุด 220,962 คน 

ชัชชาติ กำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายไม่เกิน 59 บาท – จะเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายเพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินค่าจ้างเดินรถที่ต้องจ่ายให้บีทีเอส คาดจะเริ่มโดยเร็วที่สุด ส่วนการต่อสัมปทานคาดได้ข้อสรุปภายในเดือนหน้า

ไทยประกันชีวิต เคาะราคา IPO 16 บาท/หุ้น คาดเทรดสัปดาห์สุดท้าย ก.ค.65 - บมจ.ไทยประกันชีวิต (TLI) เสนอขาย IPO ไม่เกิน 2,155,068,900 หุ้น หรือไม่เกิน 18.8% และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในกลุ่มธุรกิจการเงิน/ประกันภัยและประกันชีวิต เสนอขาย 29 มิ.ย. – 6 ก.ค. 65

 

ประเด็นติดตาม: 28 มิ.ย. – US CB Consumer Confidence / 29 มิ.ย. – US GDP Q1, US Crude Oil Inventories, US Manufacturing PMI, Fed Chair Powell Speaks / 30 มิ.ย. – US Initial Jobless Claims / 1 ก.ค. – EU CPI, EU Manufacturing PMI, US ISM Manufacturing PMI / 6 ก.ค. –อาจเห็นการยกเลิกคำสั่งปธน.เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน / 13 ก.ค. US CPI / 13-20 ก.ค. การรายงานงบกลุ่มธนาคารไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)