ไอ.ซี.ซี. จ่อขึ้นราคาผงซักฟอกเอสเซ้นซ์-เครื่องสำอาง รับต้นผลิตพุ่ง

ไอ.ซี.ซี. จ่อขึ้นราคาผงซักฟอกเอสเซ้นซ์-เครื่องสำอาง รับต้นผลิตพุ่ง

ยกเลิกทำงานที่บ้าน ดันสินค้าจำเป็น-เสื้อผ้าโต ไอ.ซี.ซี.ฯระดมส่วนลด “พันล้าน” ปลุกกำลังซื้อ รับสัญญาณบวกสินค้าจำเป็น เสื้อผ้าแฟชั่น ชุดทำงานกลับมาปกติ ขานรับผู้คนกลับทำงานที่ออฟฟิศ ด้านต้นทุนผลิตพุ่งแรง โรงงานแบกภาระหนัก เล็งขึ้นราคาผงซักฟอก เครื่องสำอาง

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าปรับตัวในทิศทางที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคกลับไปทำงานปกติ เป็นปัจจัยหนุนให้ต้องการแต่งเสริมเติมสวยมากขึ้น

ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อ ราคาสินค้าแพง เงินในกระเป๋าผู้บริโภคหายไป ส่งผลต่ออำนาจซื้อ หากมองลูกค้าเป็น 2 ส่วน กลุ่มที่มีเงินยังคงใช้จ่าย ต้องการให้รางวัลตัวเอง เมื่อมีสินค้าใหม่ออกมายังยินดีจะซื้อ อีกส่วนที่ห่วงเงินในกระเป๋ามองหาสินค้าลดราคา บริษัทมีเสื้อผ้าแฟชั่น ชุดใส่ไปทำงานตอบโจทย์ทั้ง 2 กลุ่ม

ในแต่ละปีไอ.ซี.ซี.ฯ มีการให้ส่วนลดแก่ลูกค้ามูลค่าหลักพันล้านบาท โดยเฉพาะ 2 ปีก่อนที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ระบาด ได้หั่นราคาสินค้าหนักมาก เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อท่ามกลางตลาดที่ช็อกอย่างมาก ขณะที่การให้ส่วนลดปีนี้ต้องพิจารณาเป็นรายสินค้า โดยเฉพาะชุดชั้นในวาโก้ แทบไม่เห็นการลดราคามากนัก แม้กระทั่งในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26 การนำสินค้ามาจัดโปรโมชั่นอาจไม่แรงเหมือนทุกปี

“แนวโน้มสินค้าจำเป็นและเสื้อผ้าแฟชั่นคาดว่าจะดีขึ้น เพราะการยกเลิกทำงานที่บ้านเป็นแรงส่งให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยข้าวของจำเป็น”

ไอ.ซี.ซี. จ่อขึ้นราคาผงซักฟอกเอสเซ้นซ์-เครื่องสำอาง รับต้นผลิตพุ่ง สำหรับภาวะต้นทุนการผลิตสินค้า ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัตถุดิบที่อิงกับราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เส้นใยสังเคราะห์ต่างๆที่มีพื้นฐานผลิตจากน้ำมัน บางรายการพุ่งขึ้น 50% 100% บางอย่างขึ้นมากกว่านั้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ซักผ้า โดยเฉพาะกลุ่มผงซักฟอก ทำให้บริษัทพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้า

“จริงๆสินค้าจำเป็นหลายรายการควรปรับขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งขึ้นสูงมาก เครื่องสำอางต้องขึ้น ผงซักฟอกเอสเซ้นส์ต้องขึ้นราคาแล้ว หากไม่ขึ้นราคา โรงงานผลิตอยู่ไม่ไหว แต่เป็นสินค้าควบคุมทำให้การขึ้นราคาต้องรอให้รัฐอนุญาต หากราคาสินค้ายังไม่เกินเพดาน สามารถปรับขึ้นได้ แต่อีกด้านกลไกตลาดทำหน้าที่ควบคุมการขึ้นราคา หากสินค้าเราขึ้น คู่แข่งไม่ปรับขึ้น จัดโปรโมชั่นหั่นราคา เราก็ต้องลดราคาลงอยู่ดี ถ้าคู่แข่งขึ้นราคา เราไม่ขึ้น ก็กระทบผลการดำเนินงาน”

อย่างไรก็ตาม 3-4 ปีที่ผ่านมา ไอ.ซี.ซี.ฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทุกกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยประหยัดด้านค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก ส่งผลต่อเนื่องถึงปัจจุบัน แม้ยอดขายไม่ดี แต่ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น

ด้านภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทคาดการณ์ยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากฐานปี 2564 ค่อนข้างต่ำ มีรายได้รวมกว่า 7,400 ล้านบาท หดตัวราว 50-60% จากปี 2563 รายได้รวมกว่า 8,300 ล้านบาท

“ยอดขายปีนี้อาจดีขึ้นไม่มากนัก แต่ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราปรับตัวอย่างหลาย ทำให้อยู่ในจุดที่พ้นน้ำแล้ว”