ออลล์ อินสไปร์จากดาวรุ่งอสังหาฯสู่บริหารหนี้-ขายคาร์บอนเครดิต

ออลล์ อินสไปร์จากดาวรุ่งอสังหาฯสู่บริหารหนี้-ขายคาร์บอนเครดิต

จากความเดือดร้อนของลูกค้าที่จองคอนโดของออลล์ อินสไปร์ ในหลายโครงการไม่ว่าจะเป็น โครงการ Impression เอกมัย , RISE พหล-อินทามระ และ Excel ที่เผชิญปัญหาผ่อนดาว์นจนครบแต่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ ติดต่อไปขอเงินคืนไม่มีความคืบหน้าล่าสุดทาง ออลล์ อินสไปร์ ออกจดหมายชี้แจง

เนื้อหาใจความ ระบุว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเร่งด่วน พร้อมกับติดต่อกับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดเป็นรายบุคคล !

ย้อนรอยบริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)   ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556  เรียกได้ว่า ช่วงเวลานั้น เป็นน้องใหม่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด  โดยคอนโดโครงการแรก “ดิ เอ็กเซล แบริ่ง”จำนวน 60 ยูนิต จากนั้น เปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ “ดิ เอ็กเซล” และ “ไรส์” จำนวนมากถึง 16 โครงการภายในเวลา 4 ปี   และในวันที่ 8 พ.ค. 2562 บริษัทได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI

โดยบริษัทได้พัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise, ตึกสูง และทาวน์โฮมส์ รวมถึงบริการดูแลอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซ่อมบำรุง การรักษาความปลอดภัย และบริการนายหน้าซื้อขายอสังหาฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ พร้อมวางเป้าหมายก้าวสู่บริษัทพัฒนาอสังหาฯที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ

โครงการอสังหาฯ ของ ออลล์ อินสไปร์ มีทั้งคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise และ High Rise ภายใต้แบรนด์ ดิ เอ็กเซล ไรส์ และอิมเพรสชั่น และทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์ เดอะ วิชั่น โดยเป็นโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทเองและภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 3 บริษัท คือ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ - ฮูซิเออร์ สุขุมวิท 50 จำกัด  เพื่อพัฒนาโครงการ The Excel Hideaway Sukhumvit 50 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise บริษัท เอเอชเจ เอกมัย จำกัด  เพื่อพัฒนาโครงการ Impression Ekkamai ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise และบริษัท เอจี ทองหล่อ 12 จำกัด  เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมแบบ High Rise ย่านทองหล่อ

  นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ ดำเนินงานภายใต้ บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ธุรกิจลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จภายใต้ชื่อ "Rise Venture" ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไรส์ เอสเตท จำกัด และธุรกิจให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ดำเนินงานภายใต้บริษัท ออลล์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด 

 ทว่า หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า ผลประกอบการ ตามข้อมูลจากตลาดแห่งทรัพย์แห่งประเทศไทยรายได้และผลกำไรลดลงอย่างต่อเนื่อง  ในปี 2562  มีรายได้รวมอยู่ที่  2,918 ล้านบาท กำไร 501ล้านบาท   ปี 2563 รายได้ลดลงอยู่ที่ 2,220 ล้านบาท กำไร 241 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,290 ล้านบาท หรือขาดทุน  347 ล้านบาท  และผลประกอบการในไตรมาสแรก ปี 2565 ออลล์ อินสไปร์ ขาดทุนกว่า 77 ล้านบาท

 สอดคล้องกับที่จดหมายชี้แจง ระบุว่า  ที่ผ่านมาบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากโรคโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น ส่งผลต่อสภาพคล่องของบริษัท

ออลล์ อินสไปร์จากดาวรุ่งอสังหาฯสู่บริหารหนี้-ขายคาร์บอนเครดิต
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ทางบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC ได้ออกเปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าเทคโอเวอร์โครงการ เอ็กเซล รัชดา 18 จากออลล์ อินสไปร์ เพื่อนำมาบริหารต่อ  ซึ่งเป็นคอนโดพร้อมอยู่ Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 270 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 2 ไร่ ย่านรัชดา - ห้วยขวาง 

ออลล์ อินสไปร์จากดาวรุ่งอสังหาฯสู่บริหารหนี้-ขายคาร์บอนเครดิต
ขณะที่โครงการ Impression เอกมัย  ซึ่งคอนโดหรู ตึกคู่ สูง 25 และ 43 ชั้น กลางซอยสุขุมวิท 63  ที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม. 2 แสนบาท ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2562  นั้นยังไม่มีความคืบหน้าการก่อสร้าง  ,โครงการเอ็กเซล ลาซาล 17 มีลูกค้าที่จองออกมาแสดงความไม่พอใจเพราะหลังชำระเงินผ่อนกับธนาคารไปแล้วนับแสนบาท แต่ไม่มีแนวโน้มการก่อสร้างให้เห็นชัดเจน 

 อย่างไรก็ตามก่อนนี้ในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาทาง  "ธนากร ธนวริทธิ์ " ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  ได้ออกมาประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ภายใต้แนวคิด “All New Era” ที่มองหาโอกาสใหม่ รองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยการก้าวสู่ โฮลดิ้ง คอมพานี

ออลล์ อินสไปร์จากดาวรุ่งอสังหาฯสู่บริหารหนี้-ขายคาร์บอนเครดิต

ด้วยการแตก3ไลน์ธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริหารสินทรัพย์  พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการ และพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน 2.ธุรกิจบริหารหนี้สิน เป็นการเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ และ 3.ธุรกิจคาร์บอนเครดิต โดยการร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งจะดำเนินธุรกิจ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน

 สะท้อนให้เห็นทิศทางการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไปของ ออลล์ อินสไปร์  ได้อย่างชัดเจน  แต่ก่อนที่ก้าวไปสู่น่านน้ำใหม่ ออลล์ อินสไปร์ ต้องจัดการกับปัญหานี้อย่างเร่งด่วนเสียก่อน