กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ หาจังหวะเข้าสะสมช่วงอ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ หาจังหวะเข้าสะสมช่วงอ่อนตัว

ในสัปดาห์ที่แล้ว (13-17 มิถุนายน) หุ้นไทยปรับตัวลงตามที่เราคาดไว้ เนื่องจากนักลงทุนตอบรับในเชิงลบกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ถึงแม้ว่าประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดของ FOMC ซึ่งประกาศออกมาเมื่อวันพุธที่แล้วจะยังฉายภาพว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะโตได้เล็กน้อยในปี 2565 แต่ในการแถลงของนาย Powell ประธาน Fed และ กราฟ dot-plot ใหม่ของ FOMC ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะมี downside มากกว่าที่คาดเอาไว้ใน 2H65 โดยความกังวลในประเด็นดังกล่าวยิ่งทวีขึ้นอีกเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ อย่างเช่น ดัชนีที่อยู่อาศัย และ ตลาดแรงงานของสหรัฐรวมถึงผลสำรวจการผลิตอุตสาหกรรมในภูมิภาคที่มีการประกาศออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ในอีกด้านหนึ่ง กระแสข่าวในประเทศเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 เพิ่มเติม และการกลับมาเปิดดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจอย่างเต็มที่ยังคงช่วยหนุนหุ้น domestic play ให้ outperform ตลาดต่อไปได้

 

สำหรับในสัปดาห์นี้ (20-24 มิถุนายน) เราคาดว่าดัชนี SET น่าจะพักฐาน โดยในระยะสั้นตลาดจะยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย และผลประกอบการของบริษัทสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่เราเชื่อว่าการที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงในช่วงที่ผ่านมาทำให้ความเสี่ยงด้าน downside ที่ระดับปัจจุบันค่อนข้างจำกัดแล้ว ซึ่งเมื่ออิงจากการวิเคราะห์ earnings yield gap โดยใช้อัตราเฉลี่ยระยะยาวที่ 4.0% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีที่ 3.4% และประมาณการ EPS ปี 2566 ที่ 115 เราประเมินว่า downside ของดัชนี SET จะอยู่ที่ 1,550 อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก
consensus EPS ปี 2566 ยังต่ำกว่าประมาณการของเราอยู่มาก ดังนั้น จึงยังมีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 1,550 แต่เรายังคงแนะนำให้ซื้อเมื่อย่ออยู่ดี ทั้งนี้ นอกจากประเด็นด้านการประเมินมูลค่าหุ้นแล้ว เรายังมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2565-2566 ยังแข็งแกร่งกว่าตลาดหลักอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

 

 

 

ติดตามถ้อยแถลงของประธาน Fed, ข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ และการค้าต่างประเทศของไทย

(0/-) ติดตามถ้อยแถลงของนาย Powell ประธาน Fed และ ข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ ในด้านของสหรัฐ นักลงทุนควรติดตามถ้อยแถลงของนาย Powell ประธาน Fed ต่อรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 22-23 มิถุนายนน โดยเราคาดว่านาย Mr. Powell จะพูดย้ำเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้กล่าวไปแล้วในการแถลงข่าวหลังการประชุม FOMC รอบล่าสุด ดังนั้น เราจึงมองว่าผลกระทบต่อตลาดจึงน่าจะจำกัด ส่วนในด้านของตัวเลขเศรษฐกิจ จะมีการรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤษภาคมในวันที่ 21 มิถุนายน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้วัดการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ

(0/-) ติดตามตัวเลขการค้าต่างประเทศเดือนพฤษภาคมของไทย ในวันที่ 24 มิถุนายน จะมีการประกาศตัวเลขการค้าต่างประเทศที่ผ่านพิธีศุลกากรเดือนพฤษภาคมของไทย โดยนักลงทุนควรติดตามดูว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมาของประเทศเศรษฐกิจหลักส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยอย่างไรบ้าง

ยังคงแนะนำกลยุทธ์ซื้อเมื่อย่อ

เนื่องจากเรามองว่าตลาดอาจจะพักฐานในระยะสั้น แต่เรายังมองบวกกับแนวโน้มตลาดใน 2H65 เราจึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อสะสมในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง โดยธีมหุ้นหลักของเรายังคงได้แก่ i) การขึ้นดอกเบี้ย และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ดี (KBANK*, KTB*) ii) หุ้น laggard plays ในธีมการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ (AOT*, CPALL*, MAJOR*) iii) ราคาสินค้าอาหารและเกษตรที่แข็งแกร่งใน 2H65 (CPF*, TFG) และ iv) หุ้นโภคภัณฑ์บางตัวที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่งในปี 2565 (เราชอบ BANPU*)