รีบาวนด์ เก็งกำไร KBANK TTB BBL (16 มิ.ย. 65)

รีบาวนด์ เก็งกำไร KBANK TTB BBL (16 มิ.ย. 65)

คาดดัชนีฯ รีบาวนด์ แนวต้าน 1,600 / 1,610 จุด แนวรับ 1,585 / 1,580 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,580 จุด หากหลุดบริเวณดังกล่าวจะเป็นสัญญาณขายเพิ่ม

โดยปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทย คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ 0.75% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ กว้างขึ้น ส่งผลให้ Fund Flow มีโอกาสไหลออกจากไทยในช่วงสั้น แนะนำ เก็งกำไร KBANK TTB BBL ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE (คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH BAFS DOD SAT TMT ASK PORT SMT TOG ส่วนพอร์ต Big Cap แนะนำ AWC BEC TCAP JMT CENTEL BH AOT EA MEGA MINT KTB PLANB MAJOR BLA (แนะนำ ขาย GULF)

+ Monthly Stock Picks: CHAYO GFPT JMART JMT ORI BEM BH CRC GUNKUL MINT

+ Short Term/Tactical Play: Trading Buy

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากยิลด์พันธบัตรปรับสูงขึ้น: กลุ่มธนาคาร, กลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต BBL KBANK SCB TIPH BLA

+ กลุ่มป้องกันเงินเฟ้อ (Commodities Play): PTTEP TOP ESSO BCP KSL AGE

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า: ธุรกิจส่งออก TWPC NER SMT KCE และท่องเที่ยว CENTEL MINT ERW SHR

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองเปิดประเทศ: MBK MAJOR CPN CENTEL ERW BA AAV AOT

+ SET50 / SET100 Index Rebalance: +JMART JMT AAV ASK BYD FORTH ONEE PSL TIPH –RATCH STGT BPP MAJOR RS SIRI STEC SYNEX TTA

+ FTSE Rebalance Index: +BRI CIVIL HENG PEACE KTBSTMR SVT TKC WFX TFM -PTT SCC AOT BDMS ADVANC KBANK

 

 

 

ปัจจัยลบ

- FOMC Meeting: เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75%ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1994 และมีการปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ในเดือน มี.ค. และคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2023

 

ประเด็นสำคัญ

         - Opportunity Day: วันนี้ VRANDA JR MENA IND UBE FN

         - UK: การประชุมธนาคารกลาง BOE โดย Consensus คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%

         - USA: ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย Consensus คาดลดลงจาก 2.29 แสนราย เป็น 2.15 แสนราย

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: SET index เผชิญแรงขายทั้งแต่ช่วงเปิดตลาดและแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน ก่อนปิดตลาดที่ 1,593.54 จุด -9.49 จุด วอลุ่มซื้อขาย 6.8 หมื่นล้านบาท นำลบโดยกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -2.58% กลุ่มพาณิชย์ -1.32% กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.24% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.06% หุ้นบวก >4% INSURE CNT TWP CPL TRITN SUTHA TFG BROCK PLUS TPOLY SFLEX TEKA SCP หุ้นลบ >4% PE JTS AJA VARO TEAMG ICC W GLOBAL NCH BKD ALLA RPH

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปกลับมาปิดบวก: DJIA +1.00% S&P500 +1.46% NASDAQ +2.50% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายอย่างผันผวน ก่อนจะปรับตัวขึ้น หลังจากประธานเฟดระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุม ครั้งถัดไป แต่ไม่ได้คาดหมายว่าการปรับขึ้น 0.75% จะกลายเป็นเรื่องปกติ ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +1.35% DAX +1.36% FTSE +1.20 ฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลง 6 วันติดต่อกัน หลังจากที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดและธนำคำรกลำงแห่งอื่น ๆ จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

 

 

-/+ น้ำมันดิบปิดลบ ส่วนทองคำปิดบวก: WTI -USD3.62 ปิดที่ USD115.31/บาร์เรล Brent -USD2.66 ปิดที่ USD118.51/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันสัปดำห์ที่ผ่านมา พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของ Consensus (+1.95 ล้านบาร์เรล Vs คาด -1.31 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำกลับมาปิดบวก +USD6.10 ปิดที่ USD1,819.60/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยเรียกร้องให้รัสเซียและยูเครนผลักดันการบรรลุข้อตกลง เพื่อยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนให้เกิดสันติภาพในโลก และส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพ โดยทุกฝ่ายควรร่วมมือกันแก้ไขความขัดแย้งท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน และจีนพร้อมมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ การสนทนาระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและประธานาธิบดีปูตินได้มีขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ ได้จัดการหารือกันหลายครั้งก่อนหน้านี้

+ EU: ECB จัดการประชุมฉุกเฉินวานนี้ ท่ามกลางความผันผวนในตลาดพันธบัตรยูโรโซน โดยนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวหลังการประชุมว่า ECB จะประกาศใช้เครื่องมือใหม่ เพื่อป้องกันกรพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก โดยจะใช้ความยืดหยุ่นในการนำรายได้จากการไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดอายุมาลงทุนใหม่ เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมาก

+ USA: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น +0.6% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น +0.4% ในเดือน เม.ย. แต่ยังต่ำกว่าที่ Consensus คาดที่ +1.1% โดยดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุน จากการดีดตัวของราคาน้ำมัน

- USA: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.3% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน เม.ย. โดยยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการลดลงของยอดขายรถยนต์ ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ทรงตัวในเดือน พ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน เม.ย.

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดำห์: BBL BLA DOD JMT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KBANK TTB BBL

Derivatives: แนะเปิด Short S50M22 เมื่อดีดตัว