พาณิชย์ แจงข้อเท็จจริงใช้ลิงเก็บมะพร้าว ย้ำลิงเก็บมะพร้าวเป็นวิถีชุมชน

พาณิชย์  แจงข้อเท็จจริงใช้ลิงเก็บมะพร้าว ย้ำลิงเก็บมะพร้าวเป็นวิถีชุมชน

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แจง ห้างดังสหรัฐแบนกะทิไทย ปมลิงเก็บมะพร้าว แค่ปรับเปลี่ยนสินค้าตามช่วงความต้องการผู้บริโภค ชี้ต่างชาติเข้าใจต่างชาติเข้าใจวัฒนธรรมไทย ไม่ใช่ทารุณสัตว์แต่เป็นวิถีชุมชน เชื่อ มั่นใจกระทบส่งออกกะทิสำเร็จรูปของไทยไม่มา

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีมีกระแสข่าวเรื่องห้างวอลมาร์ท (Walmart )ของสหรัฐฯ ถอดสินค้ากะทิจากไทยออกจากชั้นวางจำหน่ายสินค้า จากการกดดันของ องค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือพีต้า (PETA ) ถึงการใช้แรงงานลิงในอุตสาหกรรมผลิตกะทิสำเร็จรูป ว่าได้สอบถามไปยังทูตพาณิชย์ที่สหรัฐฯ ซึ่งติดต่อประสานงานกับผู้นำเข้าและห้างผู้จัดจำหน่ายสินค้าไทยรายใหญ่ๆ อยู่ตลอด พบว่าโดยทั่วไป การที่จะมีหรือไม่มีสินค้าบางชนิด บางยี่ห้อวางขายในบางช่วงเวลานั้น เป็นไปตามวงจรการวางขายสินค้าของร้าน ซึ่งจะมีการปรับสินค้าและปริมาณให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคตามฤดูกาล โดยที่ขณะนี้ Walmart ยังคงนำเข้าและจำหน่ายสินค้าจากไทย และรักษาความสัมพันธ์อันดีตามปกติ คาดว่า PETA อาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวที่ไม่ได้มีกะทิจากไทยวางขายสร้างประเด็นทางการค้า 

พาณิชย์  แจงข้อเท็จจริงใช้ลิงเก็บมะพร้าว ย้ำลิงเก็บมะพร้าวเป็นวิถีชุมชน

ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป จัดทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง และออกแถลงการณ์ของสมาคมฯ  ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการปลูกและเก็บมะพร้าว ซึ่งไม่ได้ใช้แรงงานลิงในอุตสาหกรรมส่งออก เผยแพร่ต่อผู้นำเข้า ห้างที่จำหน่ายสินค้าในหลายโอกาสอย่างต่อเนื่อง และผู้นำเข้าส่วนใหญ่เข้าใจวัฒนธรรมของไทย และที่สำคัญ มะพร้าวที่เข้ามาแปรรูปในอุตสาหกรรม ใช้แรงงานคนและเครื่องจักร สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้

ลิงขึ้นมะพร้าวเป็นวิถีชีวิตชุมชนที่อยู่คู่กันมานาน และไม่ได้เข้าไปอยู่ในระบบอุตสาหกรรมแต่อย่างใด “นายภูสิต กล่าว

รวมทั้งได้ชี้แจงไปยังพีต้าว่าผู้ผลิตกะทิสำเร็จรูปไทยมีมาตรฐานในการผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานนานาชาติ ทั้งกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน การมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การมีสวัสดิการที่ดีให้แรงงาน รวมถึงการค้าอย่างเป็นธรรมกับเกษตรกร รวมถึงเน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีการออก พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ตลอดจนเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเร่งดำเนินการทำ No-monkey Farm list แล้ว

ทั้งนี้ กระแสข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกกะทิของปีที่ผ่านมาในเชิงมูลค่าไม่มากนัก เนื่องจากสินค้าดังกล่าวใช้ในธุรกิจร้านอาหาร และตลาดผู้บริโภคเชื้อชาติอื่น มากกว่าตลาดหลัก โดยมูลค่าการส่งออกกะทิสำเร็จรูปทั่วโลกปี 2564 มีมูลค่า 26,582.56 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 2.57% และตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมดของไทย