จับตาการประชุมเฟด (วันที่ 14 มิถุนายน 2565)

จับตาการประชุมเฟด (วันที่ 14 มิถุนายน 2565)

วันจันทร์ที่ผ่าน ดัชนีเปิดโดดลงในแดนลบราว -21 จุด และเร่งตัวลงในแดนลบ ลงต่ำสุดราว -33 จุดจากความกังวลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่รายงานในวันศุกร์ที่ผ่านมา ออกมาสูงกว่าตลาดคาด

ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟด จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำให้มีแรงขายในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในหลายประเทศ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,600.06 จุด -32.56 จุด -1.99% มูลค่าการซื้อขาย 73,467 ลบ. ต่างชาติ -2,597.00 ลบ. TFEX -27,636 สัญญา ตราสารหนี้ +978.27 ลบ.
 

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ +0.2% ปิดที่ 120.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังคงเผชิญภาวะตึงตัว อย่างไรก็ดี การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่จีนกลับมาใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกครั้งในกรุงปักกิ่ง จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ
+ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ปธน. สหรัฐเตรียมเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลในเดือนหน้า จะเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัยด้วย
+ จนท.สาธารณสุขของสหรัฐระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีมีความปลอดภัย เป็นก้าวสำคัญในการเริ่มฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กของสหรัฐ
+ ยูเครนกำหนด 2 เส้นทางสำหรับส่งออกธัญพืชผ่านโปแลนด์และโรมาเนีย เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตอาหารโลก แม้ว่าปัญหาคอขวดจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานชะลอตัวก็ตาม
+ บอร์ดบีโอไอไฟเขียวโครงการลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท เร่งเดินหน้ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินดันผลิตอีวีแบบแบตเตอรี่ พร้อมยกระดับนิคมเดิม เพิ่มสิทธิประโยชน์ถือครองที่ดินดึงลงทุนต่างชาติ
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 1,833 ราย ATK 2,006 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย รักษาหาย 2,155 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 876.05 จุด -2.79% กังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
 

- ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนากลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติชี้ขึ้นดอกเบี้ยช้าไปไม่ดี ต้องมองบริบทประเทศเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องขยับตามต่างชาติ รับห่วงเงินเฟ้อพุ่งกระทบกลุ่มรายได้น้อย ทำเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง พร้อมออกมาตรการอุ้มเพิ่มเติม
- กระทรวงคลังเตรียมเสนอครม.อนุมัติเก็บภาษีขายหุ้นเร็วๆ นี้ เพื่อออกเป็นพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ขณะที่ กฎหมายจะให้เวลา 90 วัน เพื่อให้โบรกเกอร์จัดทำระบบนำส่งภาษีให้กับกรมสรรพากร

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก จากการที่นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC วันที่ 14–15 มิ.ย. นี้ คาดดัชนีวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,600 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย. FTSE All World Index : เข้า – ออก - , Micro Cap Index เข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก –
• กม. PDPA มีผลบังคับใช้ : HUMAN SECURE ITEL IIG INSET
• ปลดล็อกกัญชาเริ่ม 9 มิ.ย. : GUNKUL KWM RS BC IP DOD RBF JP
• FTSE SET Index ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 20 มิ.ย. FTSE SET Large Cap Index : เข้า JTS ออก BTS , FTSE SET Mid Cap Index เข้า AAV BYD BTS FORTH NEX SABUY ONEE ออก IMPACT JTS
• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง KBANK SCB BBL KTB TISCO

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                         STP <MAI/Industrials> (ไม่จัดอันดับ ราคาเหมาะสม 24.25 บาท)
               บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

•ประกอบธุรกิจผลิตกล่อง 2 ชนิด 1) กล่องกระดาษออฟเซทแบบประกบฟูก และ 2) กระดาษออฟเซทแบบไม่ประกบฟูก เพื่อบรรจุอาหารทะเลแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีสัดส่วนรายได้จากผู้ผลิตอาหารราว 94% ทั้งนี้บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 2561-2564 อยู่ที่ 369-561 ลบ. และ 54-124 ลบ. ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR ตลอด 4 ปีที่ 11% และ 23% ต่อปีตามลำดับ

•คาดรายได้และกำไรปี 2565 อยู่ที่ 617 ลบ. และ 134 ลบ. เติบโต 10%YoY และ 8%YoY ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจาก 1) การขยายตัวของการส่งออกอาหารสัตว์จะเติบโตราว 20% ในปี 2022 (ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) 2) การขยายตัวของมูลค่าบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลกขยายตัว 8% และ 3) การขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 50% สู่ 74.6 ล้านแผ่นพิมพ์ต่อปีเพื่อลดการจ้างผลิตจากภายนอก (คาดแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2565) ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวลงเล็กน้อยจาก 38% สู่ระดับ 37.3% เนื่องจากมีการจ้างผลิตจากโรงงานภายนอก อีกทั้งการขยายกำลังการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2565 ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้น

•หุ้น IPO จำนวน 25.4 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.4 ของหุ้นทั้งหมด Par 1 บาท เสนอขายหุ้นละ 18 บาท (คิดเป็น P/E ที่ 11.3x) คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย 457 ล้านบาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1.ใช้ในการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักร และ 2. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

หุ้นมีข่าว

(+) EA (Bloomberg consensus 90.00 บาท) เผยน้ำมันราคาพุ่งหนุนความต้องการใช้รถอีวีเพิ่ม แย้มมีองค์กรเข้าเจรจาจำนวนมาก เร่งส่งมอบรถให้ลอตเต้-BYD ไม่ต่ำกว่า 200 คัน Q2/2565 เตรียมสรุปพันธมิตรลุยรถบรรทุกไฟฟ้า Q3/2565 เล็งขยายโรงประกอบอีวี เพิ่มกำลังการผลิตขั้นต่ำ 1 หมื่นคัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) COLOR (Bloomberg consensus - บาท) จัดหนักธุรกิจภาคการเกษตร หลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศปลดล็อกกัญชา-กัญชงไทย หนุนออเดอร์สินค้าถุงปลูก Magik Growth-ฟิล์มคัดกรองแสงในโรงเรือนปลูกกัญชาเพิ่ม เล็งขยายตลาดส่งออกกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปั๊มผลงานโตก้าวกระโดด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ETE (Bloomberg consensus - บาท) ใส่เกียร์ชิงบิ๊กโปรเจ็กต์ 4 พันล้านบาท ล่าสุดโกยงานใหม่แล้วกว่า 1.04 พันล้านบาท ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใส จ่อบุ๊กรายได้ขายไฟฟ้าเต็ม 17.47 เมกะวัตต์ พร้อมรับทรัพย์โรงงานไม้สับ ส่งซิกอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่ม ปักหมุดดันรายได้ ชนเป้าโต 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) D (Bloomberg consensus 6.15 บาท) รับอานิสงส์นายกรัฐมนตรี หนุนไทยเป็น "Dental Hub" ดันยอดผู้ใช้บริการพุ่ง มองธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เชื่อไตรมาส 2/2565 ฟอร์มแจ่ม รับดีมานด์ทะลัก ปักธงปีนี้รายได้โต 25-30% จากปีก่อน หลังฐานลูกค้าหวนกลับ-โควิดคลี่คลาย (ที่มา ทันหุ้น)