Sideways Down หุ้นแนะนำ BLA BAM KBANK (10 มิ.ย. 65)

Sideways Down หุ้นแนะนำ BLA BAM KBANK (10 มิ.ย. 65)

คาดดัชนีฯ Sideways Down แนวต้าน 1,646 / 1,651 จุด (EMA 50 วัน) แนวรับ 1,636 (EMA 200 วัน) / 1,620 จุด ทางเทคนิค แม้ดัชนีฯ สามารถปิดเหนือ EMA 200 วันได้ แต่ในระหว่างวันยังมีแรงขายออกมาเป็นระยะ ๆ

ทำให้ดัชนีฯ ยังมีโอกาสปรับลง หลังจากยังไม่สามารถสร้าง Reversal Pattern ที่ชัดเจน โดยปัจจัยที่กดดันตลาดวันนี้ คือ Sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งปิดลดลงจากความกังวลต่อการกลับมาล็อกดาวน์ รอบใหม่ในบางเขตการค้าของเซี่ยงไฮ้ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ อาจจะออกมาสูงกว่าที่คาด ซึ่งจะทำให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ระยะสั้นแนะนำ Trading Buy หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นแนะนำ BLA BAM KBANK สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของจีนและสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Mid-Small Cap แนะนำ AH BAFS DOD SAT TMT PORT SMT TOG ส่วนพอร์ต Big Cap แนะนำ AWC BEC JMART TCAP JMT CENTEL BH AOT EA MEGA MINT KTB PLANB (แนะนำ ซื้อ MAJOR)

+ Monthly Stock Picks: CHAYO GFPT JMART JMT ORI BEM BH CRC GUNKUL MINT

+ Short Term/Tactical Play: Trading Buy

+ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น: กลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต KBANK SCB TIPH BLA

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากขาขึ้นของราคาพลังงานโลก: กลุ่ม Commodities Play PTTEP TOP ESSO BCP KSL AGE

+ กลุ่มได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองเปิดประเทศ: MBK MAJOR CPN CENTEL ERW BA AAV AOT

+ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชา: DOD STPI CBG ICHI SAPPE RS TACC

+ SET50 / SET100 Index Rebalance: +JMART JMT AAV ASK BYD FORTH ONEE PSL TIPH –RATCH STGT BPP MAJOR RS SIRI STEC SYNEX TTA

 

ปัจจัยบวก

+ Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิทั้งในตลาดหุ้นไทยและ TFEX วานนี้เป็นวันแรกในรอบสัปดาห์ โดยซื้อสุทธิ +1,118.80 ล้านบาท และเปิด Long SET50 Index Futures +22,300 สัญญา

 

ปัจจัยลบ

- ECB: ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0% แต่มีการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. และอาจขึ้นมากกว่า 0.25% ในเดือน ก.ย. พร้อมปรับลดประมาณการ 2022E GDP ลงจาก 3.7% เหลือ 2.8% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2022E จาก 5.1% เป็น 6.18% (-หุ้นกลุ่มส่งออก)

- China: ANT Group เปิดเผยว่าบริษัทยังไม่มีแผนที่กลับมาออกหุ้น IPO หลังจากถูกระงับในปี 2020 สอดคล้องกับทางการจีน ซึ่งได้มีการออกแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวว่ากำลังพิจารณาให้บริษัทฯ กลับมาออกหุ้น IPO ได้อีกครั้ง (-Sentiment ตลาดหุ้นจีนและหุ้นเอเชียเช้านี้)

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: KUMWEL VIBHA ASK

- จีน: เงินเฟ้อเดือน พ.ค. โดย Consensus คาด +2.2% YoY (Vs เดือน เม.ย. ที่ 2.1% YoY)

- USA: เงินเฟ้อเดือน พ.ค. โดย Consensus คาด +8.3% YoY ทรงตัว จากเดือนก่อนหน้ำ

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 2: ดัชนีฯ ปรับตัวสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 1,646.44 จุด ก่อนลดช่วงบวกมาปิดตลาดที่ 1,641.34 จุด +4.45 จุด วอลุ่มซื้อขาย 8.0 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มธนาคาร +3.04% กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +2.80% กลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ +2.69% กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ +0.42% หุ้นบวก >4% BBL IVL CPH ESSO CENTEL CPR HUMAN L&E MBAX VARO SPA GC LEE NINE หุ้นลบ >4% PSL TEAMG BIS ASK CAZ CM DITTO SMD TWP KC TRU LHK ABICO GSC PPP

 

 

 

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปร่วงแรง: DJIA -1.94% S&P500 -2.38% NASDAQ -2.75% หุ้นทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมปิดลบ จากแรงเทขายลดความเสี่ยง ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค. คืนนี้ โดยนักลงทุนกังวลว่าจะออกมาสูงกว่าคาด (คาดทรงตัว 8.3% YoY) รวมถึง Bond Yield สหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นแตะ3.07% กดดันหุ้นกลุ่มเทคฯ นำโดย APPLE -3.6% AMAZON -4.2% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ CAC40 -1.40% DAX -1.71% FTSE -1.54% หลังจากประธาน ECB ระบุว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก 25bps. ในเดือน ก.ค. และอาจเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bps. ในเดือน ก.ย. หากเงินเฟ้อในระยะกลางยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -60 เซนต์ ปิดที่ USD121.51/บาร์เรล Brent -51 เซนต์ ปิดที่ USD123.07/บาร์เรล หลังเขตหมินหัง (ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ และมีประชากรกว่า 2 ล้านคน) กลับมาถูกล็อกดาวน์ 2 วัน (เสาร์และอาทิตย์นี้) และอาจต้องนานกว่า 2 สัปดาห์ หากพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ส่วนราคาทองคำปิดลบ -USD3.70 ปิดที่ USD1,852.80/ออนซ์ หลัง Bond Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นและเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่ามากขึ้น ก่อนรายงานตัวเลข เงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ

 

ประเด็นสำคัญ
 

- Thailand: ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. 2022 อยู่ที่ระดับ 84.3 ลดลงจาก 86.2 ในเดือน เม.ย. 2022 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากปัจจัยที่ส่งผลลบ ได้แก่ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังคงยืดเยื้อและทวีควำมรุนแรง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมถึงราคาสินค้า โภคภัณฑ์และราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังฟื้นตัวช้า จากปัญหาเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง

- Thailand: ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. 2022 อยู่ที่ระดับ 40.2 ลดลงจากเดือน เม.ย.2022 ที่ 40.7 ส่วนดัชนีควำมเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 34.3, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 37.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 48.5

- China: เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ประกาศจะล็อกดาวน์เขตหมินหัง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์นี้ (11 มิ.ย.) เพื่อปูพรมตรวจเชื้อ COVID-19 เป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นการใช้มาตรการควบคุมการเดินทางครั้งสำคัญเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ประกาศยุติมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่ในวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา

- USA: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PSL SPA BLA AGE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BLA BAM KBANK

Derivatives: แนะเปิด Long S50M22 เมื่ออ่อนตัว