DITTO ผนึก TEAMG เพิ่มศักยภาพ หนุนธุรกิจเติบโต

DITTO ผนึก TEAMG เพิ่มศักยภาพ หนุนธุรกิจเติบโต

“ดิทโต้” ผนึก “ทีมจี” หวังนำจุดเด่นแต่ละฝ่าย เสริมศักยภาพขีดความสามารถประมูลงานระดับ “พันล้าน” พร้อมจ่อเซอร์ไพร์ส 2 งานใหญ่ร่วมกันปีนี้ ยันไม่มีแผนควบรวมกิจการ แต่มีอาจร่วมทุนสร้างรายได้ประจำ

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า บริษัทมีลงนามบันทึกข้อตกลงกรอบความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG โดยมีเป้าหมายจะผนึกกำลังช่วยขยายขอบเขตการรับงานโครงการใหม่ๆ ได้มากขึ้น พร้อมช่วยให้การเติบโตรวดเร็วขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ละฝ่ายจะช่วยปิดจุดอ่อนของกันและกัน ทำให้เพิ่มศักยภาพการเข้าประมูลงานที่มีมูลค่าสูงขึ้นในระดับ 1,000 ล้านบาทจากเดิมเข้าประมูลงานระดับ 600-800 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม บริษัทเคยร่วมงานกับ TEAMG อยู่บ้างแล้วในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้หากบริษัทต้องการเติบโตขึ้นไปอีก และตามแผนที่จะย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดใหญ่ (SET) จำเป็นต้องมีบุคคลากรและทีมงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทจะมีผลดำเนินงานที่เติบโตก้าวกระโดดก็ตาม ซึ่ง TEAMG สามารถเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เนื่องจาก TEAMG เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมมานาน มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะทีมวิศวกรที่มีความเป็นมืออาชีพสูง 

โดยปัจจุบัน DITTO มีงานในมือ (แบ็กล็อก) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ราว 50% ส่วนปีนี้บริษัทคาดหวังจะเข้าประมูลงาน และได้งานใหม่เข้ามาเพิ่มอีกราว 5,000 ล้านบาท เพื่อรักษาการเติบโตให้ได้ไม่น้อยกว่าปีก่อน และคาดจะเห็นความชัดเจนการเข้าประมูลงานในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเป็นงานโครงการใหญ่ที่ร่วมทำงานกับ TEAMG อย่างน้อย 2 โครงการ 

นอกจากนี้ มีโอกาสที่จะมีการตั้งบริษัทร่วมลงทุน (JV) ร่วมกัน เพื่อที่จะลงทุนในโครงการต่างๆในอนาคต รองรับการสร้างฐานรายได้ประจำทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ อาทิเช่น การกำจัดขยะ และ การคัดแยกขยะ เป็นต้น

DITTO ผนึก TEAMG เพิ่มศักยภาพ หนุนธุรกิจเติบโต “หลังจากนี้เรามีแผนจะรับงานโครงการใหญ่ และสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องมากขึ้น โดยเฉพาะงานที่เป็นการนำเทคโนโลยีไปผสมผสานกับวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่ค่อยเห็นมากนักในไทย นอกจากนี้โครงการที่บริษัทศึกษาอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมาคือ การบริหารจัดการขยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของประเทศ”

นายฐกร บอกต่อว่า การทำ MOU ร่วมกันครั้งนี้ เพื่อต้องการร่วมมือกันสร้างธุรกิจให้เติบโต โดยทั้ง DITTO และ TEAMG จะส่งบุคลากรของแต่ละฝ่ายที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งวิศวกร และโปรแกรมเมอร์มาทำงานร่วมกันในโปรเจคต่างๆ ที่เน้นด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม ที่ทาง DITTO และ TEAMG ให้ความสนใจ พร้อมทั้งประสานจุดแข็งที่ทั้งคู่มี เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ช่วยประหยัดต้นทุนด้านบุคคลากร ส่งผลให้มาร์จินสูงขึ้น และสามารถเข้าประมูลงานที่มีขนาดและมูลค่าใหญ่ขึ้นได้ 

สำหรับประเด็นมีโอกาสถือหุ้นเพิ่มหรือมีแผนควบรวมกิจการในอนาคตนั้น นายฐกร บอกว่า ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้แม้ว่าจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่คนเดียวกันคือ นายธีระชัย รัตนกมลพร ตอนนี้มองแค่ในแง่ของธุรกิจมุ่งด้านการทำงานร่วมกันเป็นหลัก แต่แนวทางหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพิ่มเติมคือ การร่วมทุนทำโครงการที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) 

นายอภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEAMG เปิดเผยว่า บริษัทมีจุดเด่นในด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานประมาณ 1,470 คน ในจำนวนนี้เป็นวิศวกรราว 800-900 คน แต่สิ่งที่บริษัทยังขาดคือความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ซึ่งการร่วมมือกับ DITTO จะเข้ามาช่วยสนับสนุนด้านนี้

“การร่วมมือกับ DITTO จะช่วยให้เราเติบโตก้าวกระโดดมากขึ้น ซึ่งเราเห็นโอกาสเหมือนกันคือ งานทางด้านวิศวกรรม การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำ ขยะ และการได้เทคโนโลยีจาก DITTO เข้ามาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้อัตรากำไรมีแนวโน้มดีขึ้น”

ปัจจุบัน TEAMG มีงานในมือราว 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในอีก 3-4 ปีนี้ และในปีนี้จะมีการรับงานใหม่เพิ่มเติม ทำให้งานในมือน่าจะอยู่ที่ราว 4,000-5,000 ล้านบาท