MTC - NPL มีสัญญาณดีขึ้น (9 มิถุนายน 2565)

MTC - NPL มีสัญญาณดีขึ้น (9 มิถุนายน 2565)

การกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจ Non-bank ในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ และลดแรงกดดันทางด้านของการกันสำรอง

นอกจากนี้ การที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เราคาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นอีกใน 2H65 และจะช่วยหนุนสภาวะการจ้างงาน ในขณะเดียวกัน รายได้ภาคเกษตรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ประมาณ 14-15% (สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ 4-7% ถึง 2.0x ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา) ยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าเกษตรกรได้รับผลสุทธิเป็นบวก
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขยับสูงขึ้นเกษตรกร

 

MTC จะได้ประโยชน์มากที่สุด

โครงสร้างลูกค้าของ MTC ประกอบด้วยเกษตรกร 40% และลูกจ้างแรงงานรายวัน 20% ดังนั้น การที่รายได้ภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยลดแรงกดดันทางด้านของคุณภาพสินทรัพย์ และ credit cost ของบริษัทลงไป ซึ่งที่ระดับปัจจุบัน เราได้ปรับสมมติฐานสำคัญด้วยการปรับลด credit cost ปี 2565/2566/2567 ลงเหลือ 110bps/110bps/100bps (จากเดิมที่ 150bps/150bps/120bps) ซึ่งยังสูงกว่า 83bps ในปี 2564 นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อปี 2565/2566/2567 เป็น 30%/25%/25% (จากเดิมที่ 25%/20%/20%)

 

 

 

บริษัทคาดว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้น ในขณะที่ NPL จะดีขึ้นเพราะสินเชื่อ H/P ชะลอตัวลง

หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการคุม COVID ลงจากเดือนก่อนหน้า การที่นักเรียนกลับเข้าเรียนที่โรงเรียน และเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกรอบใหม่ สินเชื่อจึงเร่งตัวขึ้นเป็น +30% YoY QTD ในเดือนพฤษภาคม (จาก +28% ใน 1Q65) ในขณะที่ yield สินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 10bps QoQ (แต่ -40-50bpsYoY) เป็น 18.6-18.7% ซึ่งสามารถชดเชยต้นทุนทางการเงินที่เริ่มจะขยับสูงขึ้นเล็กน้อยใน 2Q65 จากการ re-finance หุ้นกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยแพงขึ้นได้ ในขณะเดียวกัน NPL ส่งสัญญาณชะลอตัวในกลุ่มลิสซิ่งรถมอเตอร์ไซค์ และมีการเร่ง write-off หนี้เสียออกไปมากขึ้นใน 2Q65

 

ปรับเพิ่มกำไรปี 2565/2566 8%/13% และปรับเพิ่ม TP-65Fเป็น 58.50 บาท ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ

การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วเกินคาดจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายและรายได้ภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์ของ MTC และลดแรงกดดันทางด้านของ credit cost ลง ดังนั้น เราจึงปรับลดสมมติฐาน credit cost ปี 2565/2566 ลงเหลือปีละ 110bps และปรับเพิ่มอัตราการเติบโตของสินเชื่อปี 2565/2566 เป็น 30%/25% ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิในอีกสองปีข้างหน้าเป็น 8%/13% ทั้งนี้ จากสัญญาณเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และแรงกดดันทางด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลง เราจึงปรับมูลค่าเหมาะสมของ MTC โดยใช้ PE ที่22x (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 20x) เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -1 S.D. ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ใหม่ที่ 58.50 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 49.50 บาท) พร้อมทั้งปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ขาย เป็น ซื้อ

 

Risks


NPLs เพิ่มขึ้น และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น.