Checkout​.com จับมือ Fireblocks พร้อมชำระเงินด้วย USD Coin ตลอด 24 ชม.

Checkout​.com จับมือ Fireblocks พร้อมชำระเงินด้วย USD Coin ตลอด 24 ชม.

Checkout​.com เปิดตัวระบบชำระเงินด้วยเหรียญสเตเบิลคอยน์ USD Coin ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน ผ่านแพลตฟอร์ม Fireblocks

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า Checkout.com กำลังเสนอวิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่ ผ่านระบบเพย์เมนต์สเตเบิลคอยน์ โดยจะรองรับเฉพาะ USDC เท่านั้น ทั้งนี้จะมีแผนเสนอสินทรัพย์ที่หลากหลายขึ้นหลังจากเป็นพันธมิตรกับ Fireblocks บริษัทรักษาความปลอดภัยคริปโท 

Checkout.com บริษัทชำระเงินออนไลน์ เห็นว่าสเตเบิลคอยน์ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร ด้วยอุปทานหมุนเวียนมากกว่า 50 พันล้านดอลลาร์และโดยมี USD Coin (USDC) เป็นเหรียญที่มีเสถียรภาพที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเป็นศูนย์กลาง และแปลงเป็นเงินโดยอัตโนมัติ ผู้ค้าสามารถใช้บริการนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

นางเจส ฮูลเกรฟ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านดิจิทัลของ Checkout.com พูดถึงปัญหาการซื้อบิตคอยน์จากการแลกเปลี่ยนคริปโท ในการทำธุรกรรมผ่ารวิธีการทำงานของธนาคารด้วย Visa และ Mastercard ทำให้ผู้ใช้ต้องรอเป็นเวลาหลายวัน แต่สิ่งที่ Checkout.com จะช่วยให้ผู้ใช้ชำระเงินได้แม้แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทำให้ได้รับสินทรัพย์อย่างรวดเร็ว

“ในช่วงเวลาที่ระบบทำธุรกรรมเพื่อส่งบิตคอยน์และทำการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงิน ทำให้พบข้อจำกัดด้านเงินทุนหมุนเวียน” ฮูลเกรฟ กล่าวกับ CNBC เกี่ยวกับการประชุม Fintech Money 20/20 ในอัมสเตอร์ดัม

ระบบเพย์เมนต์ดังกล่าวใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยที่พัฒนาโดยผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคริปโต Fireblocks ผ่านโปรแกรมเบต้ากับ Fireblocks, Checkout.com ทำธุรกรรม USDC ได้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Checkout.com เป็นโซลูชั่นเพย์เมนต์บนคลาวด์ ได้รีแบรนด์ในปี 2555 ได้ปรับเปลี่ยนสู่สินทรัพย์ดิจิทัลและ Web3 อย่างแข็งแกร่ง โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Coinbase, Crypto.com, FTX และ MoonPay ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ปิดรอบการลงทุน Series D มูลค่า $1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมกราคม 2565 โดยมีมูลค่า 4พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการพัฒนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ราคาตลาดคริปโทร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเมื่อปี 2564 ทำให้บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดปรับลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบแตะ 70,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายนปี 2564

สเตเบิลคอยน์ต่างจากบิตคอยน์ตรงที่ราคาไม่ผันผวนมากนัก ซึ่งสเตเบิลคอยน์ได้รับการออกแบบให้ตึงราคากับมูลค่าของสินทรัพย์แบบดั้งเดิมเช่นดอลลาร์ แต่เหตุการณ์ล่าสุดได้ทดสอบจุดขายหลักของสเตเบิลคอยน์

โดยสเตเบิลคอยน์ที่เรียกว่า terraUSD ได้ร้อนแรงขึ้นหลังจากที่ตกลงต่ำกว่าค่าเงินดอลลาร์ที่ได้ตรึงไว้ ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในคริปโทเคอเรนซีลดลง ขณะเดียวกัน TerraUSD หรือ UST พยายามรักษาราคาไว้ที่ 1 ดอลลาร์ ซึ่งแตกต่างจากเหรียญที่มีเสถียรภาพอย่าง tether และ USDC ที่ตรึงราคาไว้กับสินทรัพย์อื่น ๆ  เช่น เงินสด

อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลเริ่มกังวลเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหัฐได้ประกาศข้อเสนอใหม่ที่จะให้อำนาจแก่ธนาคารกลางอังกฤษ ในการแทรกแซงและจัดการการล่มสลายของสเตเบิลคอยน์บางตัว หากมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินในรัฐ จึงต้องเร่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ อนุมัติกฎระเบียบการใช้สเตเบิลคอยน์ภายในสิ้นปีนี้