แบงก์ชาติ ชี้อานิสงส์ เปิดประเทศ โรงแรม ทยอยออก ‘พักทรัพย์ พักหนี้’ พุ่ง

แบงก์ชาติ ชี้อานิสงส์ เปิดประเทศ โรงแรม ทยอยออก ‘พักทรัพย์ พักหนี้’ พุ่ง

ธปท. เผย ธุรกิจท่องเที่ยว แห่ขอออกจากโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ทั้งรายที่เข้ามาแล้ว - รายใหม่ หลังเปิดประเทศ ดันยอดเข้าพักพุ่ง ล่าสุดยอดโอนทรัพย์เข้าโครงการ 4.6 หมื่นล้านบาท

      นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า จากการเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดี  โดยมีอัตราการจองห้องพักบางแห่งปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่พักในเขตหัวเมืองใหญ่ และเป็นเมืองท่องเที่ยว

      ดังนั้น   ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรม ขอออกจากโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ หรือแอสเซท แวร์เฮ้าส์ซิ่ง แล้วหลายราย ทั้งรายที่ได้รับอนุมัติเข้าโครงการเรียบร้อยแล้ว และรายที่อยู่ระหว่างการยื่นเข้าโครงการ

    "ปัจจุบัน เราเห็นว่าผู้ที่ขอออกจากโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เยอะขึ้น มีทั้งที่เข้าโครงการเรียบร้อยแล้ว และที่อยู่ระหว่างการยื่นขอเข้าโครงการ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวในเขตหัวเมืองใหญ่หรือเขตท่องเที่ยว หลายราย และวันนี้เราเห็นคนเข้าโครงการน้อยลง หากเทียบกับช่วงที่ธุรกิจได้รับผลกระทบโควิด-19 ใหม่ๆ แต่ก็มีบางราย ที่ยื่นความประสงค์ขอเข้าโครงการเช่นกัน จากต้นทุน ค่าใช้จ่ายในปัจจุบันที่สูงขึ้น”
 

       นางสาวสุวรรณี กล่าวว่า  ด้วยกลไกของมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ที่ ธปท.ได้ออกมา ถือว่าออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น โดยสร้างกลไกให้เอื้อสำหรับลูกหนี้ มีสิทธิในการเช่าต่อ และมีสิทธิในการซื้อคืนเป็นคนแรกได้
      ทั้งนี้หากลูกหนี้เปลี่ยนใจยกเลิกในการเข้าโครงการ ก็สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีอื่นๆ ได้ จากสถาบันการเงิน เช่น การขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับการชำระเงิน ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น ดังนั้น โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเข้าไปช่วยแก้หนี้ให้กับลูกหนี้

     “ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ขอออกจากโครงการ ขนาดก็ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะดูจากจำนวนรายที่เข้าโครงการมาแล้วกว่า 300 รายวงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท และวันนี้เรายังเห็นแบงก์เข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่อง และแต่ละแบงก์จะมี RM ที่คอยช่วยลูกหนี้ธุรกิจอยู่แล้วตามมาตรการต่างๆ ไม่เฉพาะพักทรัพย์ พักหนี้เท่านั้น”

      สำหรับความคืบหน้าโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ของ ธปท. ล่าสุด มีมูลค่าสินทรัพย์ที่รับโอนแล้ว 46,916 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 346 ราย ณ 23 พ.ค.2565

     อย่างไรก็ตาม สำหรับวงเงินในโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ปัจจุบันเหลืออยู่เกือบ 5.5 หมื่นล้านบาท จากวงเงิน 1 แสนล้านบาท บวกกับมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู ที่มีวงเงินเหลืออีกกว่า 8 หมื่นล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดที่ 2.5 แสนล้านบาท ธปท.เชื่อว่า จะยังมีวงเงินเพียงพอ ในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อให้กับลูกหนี้ได้ในระยะข้างหน้า 

      ทั้งนี้ หากวงเงินสินเชื่อภายใต้สินเชื่อฟื้นฟูเต็มวงเงินที่ 2.5 แสนล้านบาท ในช่วงที่เหลืออีก 1 ปีนี้ ก็สามารถโยกวงเงินจากโครงการพักทรัพย์พักหนี้ มาดูแลลูกหนี้เพิ่มเติมในโครงการสินเชื่อฟื้นฟูได้ด้วย

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์