KWM จ่อผุด’สกินแคร์’สู้ศึก หลังปลดล็อก กัญชง-กัญชา

KWM จ่อผุด’สกินแคร์’สู้ศึก หลังปลดล็อก กัญชง-กัญชา

โบรก ชี้ “หุ้นกัญชง-กัญชง” จ่อรับแรงหนุน 9 มิ.ย.สธ. ประกาศปลดล็อก ทุกคนปลูกได้  "เคดับบลิวเอ็ม"ผุดสินค้าสกินแคร์ไตรมาส4 หวังกัญชง-กัญชา ปีแรกมีสัดส่วนรายได้3-5%

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะถอดพืชกัญชา-กัญชง ให้พ้นจากบัญชีการเป็นยาเสพคิดประเภท 5 ซึ่งมีผลให้ทุกส่วนของกัญชา- กัญชง ไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นสารสกัดที่มี THC เกิน 0.2% ทำให้ประชาชนสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องจดแจ้ง มองเป็นปัจจัยหนุนธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา-กัญชง มีแนวโน้มฟื้นตัวทยอยรับรู้รายได้และกำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้และชัดเจนต่อในปีหน้า  

ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกกับ ธุรกิจกลางน้ำ  (โรงสกัด) มากที่สุด เพราะธุรกิจโรงสกัด ยังมีผู้เล่นในตลาดไม่มากและรายใหม่ยังยากที่จะเข้ามาแข่งขัน อีกทั้งซัพพายผลผลิตที่เข้ามามากขึ้นทำให้ต้นทุนลดลง มีโอกาสทำกำไรเพิ่ม ส่วนธุรกิจต้นน้ำ (ผู้ปลูก) และปลายน้ำ (กลุ่มเครื่องดื่ม,เครื่องสำอางค์) การแข่งขันรายใหม่สูงแน่นอน 

สำหรับการลงทุนหุ้นธีมกัญชา-กัญชง เน้นธุรกิจกลางน้ำ เช่น RBF ราคาเป้าหมาย 21.5 บาท  ปัจจุบันราคาปรับฐานลงมามากแล้วและยังมีอัพไซด์จากปัจจัยบวกรอบนี้ แต่ในภาพรวมการลงทุนธีมนี้ ยังแนะนำลงทุนระยะสั้นและระมัดระวังลงทุนในหุ้นธีมต่างๆ มีกระแสเชิงบวก ทำให้มีแรงเก็งกำไรระยะสั้น จึงมีโอกาสถูกเทขายได้เช่นกัน 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า หลังจาก สธ.ประกาศให้พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 ซึ่งส่งผลบวกต่อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกัญชา ได้แก่ GUNKUL, KWM, RS, BC, IP, DOD และ RBF 

นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค (KWM) กล่าวว่า หลังจากวันที่ 9 มิ.ย.นี้ก็ยังต้องติดตามว่าใครจะเป็นผู้นำตลาด (First Mover) กัญชาได้ก่อนกัน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเป้าหมายติด 1 ใน 5 ของตลาด  โดยมุ่งลงทุนโรงสกัดจากกัญชง  กัญชา และสมุนไพร เพื่อทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ เพราะตลาดแข่งขันไม่สูง และเรามีความเชี่ยวชาญ โดยได้ดำเนินการผ่าน บมจ. เคดับบลิวเอชบี (KWHB) ตอนนี้อยู่ในเฟสสุดท้ายของการก่อสร้างและยื่นเอกสารขออนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อดำเนินธุรกิจการสกัด แปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตร และจำหน่ายผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้คาดว่า ผลิตภัณฑ์ตัวแรกใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัทย่อย คือบริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด น่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกได้ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมกับหันมาเน้นการขายเครื่องสกัดสารแทนการเช่า ซึ่งหวังว่ารายได้ธุรกิจกัญชาและกัญชงของบริษัทในปีแรกจะมีสัดส่วน 3-5% ของรายได้รวม โดยรายได้รวมปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10-15%จากปีก่อนที่567.30 ล้านบาท