Selective buy (ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2565)

Selective buy  (ประจำวันที่ 6 มิถุนายน 2565)

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ SET ปิดลบ 12 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่ม Domestic play กังวลข่าวปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบต้นทุนการผลิต ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเบาบางเนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดู OPEC+ Meeting และลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET พักตัวแนวรับ 1,640 / 1,635 จุด ตามความกังวล FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ยังคงแข็งแกร่งโดยเพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อกลุ่มพลังงานช่วงพยุงดัชนีหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสู่ 120 US/Barrels จึงแนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy เช่นเดิม

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

         PTTEP TOP IVL SPRC BCP BANPU ราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่น+ ถ่านหิน ทรงตัวระดับสูง

         AOT MINT CENTEL BDMS BH BEM BTS CPALL CPN CRC AMATA  อานิสงส์การเปิดประเทศ

        TU ASIAN GFPT KCE HANA กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

PTTEP (ปิด 166.5 บาท ซื้อ/เป้า 185 บาท)คาดหวังราคาน้ำมันดิบยังเป็นขาขึ้นจากภาวะซัพพลายน้ำมันดิบตึงตัว OPEC+ เพิ่มปริมาณการผลิตไม่น่ากังวลเพราะเป็นระดับการผลิตที่ค่อนข้างต่ำยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งคลายล็อกดาวน์

IVL (ปิด 49.75 บาทซื้อ/เป้า 60 บาท) กำไรสุทธิ 1Q22 โตแกร่งที่ 1.4 หมื่นล้านบาท +161% qoq and +134% yoy แนวโน้ม 2Q22 ยังทรงตัวในระดับสูงเพราะจะรับรู้ปริมาณขายและรายได้จาก Oxitino ในบราซิลเข้ามาเต็มไตรมาส

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

         AMATA, BTS, Beverage sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวนตลาดยังกังวลกับดอกเบี้ยขาขึ้น: ดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะดาวโจนส์ของสหรัฐยังผันผวนโดยปรับตัวลง 348.58 จุด หรือ -1.05% ปิดที่ 32,900 จุด นักลงทุนกังวลว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 390,000 ตำแหน่งมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 325,000 ตำแหน่ง ปัจจัยนี้อาจกดดันให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อและอาจจะทำให้ ศก. สหรัฐถดถอย

(+) กลุ่มน้ำมันยังเด่นตลาดน้ำมันยังอยู่ในภาวะซัพพลายตึงตัว: ราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นโดยเมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 118.87 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนยังคาดว่าตลาดน้ำมันดิบจะยังเผชิญกับภาวะซัพพลายตึงตัวต่อไปแม้ OPEC+ จะเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้น 648,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ถือเป็นระดับการผลิตที่ค่อนข้างต่ำและยังไม่เพียงพอกับความต้องการโดยเฉพาะเมื่อเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่งคลายล็อกดาวน์

(+/-) วันนี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของไทยคาดขยับขึ้นแต่ยังไม่พอให้ กนง. ขึ้นดอกเบี้ย: วันนี้ติดตามกระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของไทยเบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.8% จาก 4.65% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 2.1% จาก 2% แม้อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งเกินกรอบเป้าหมายของแบงก์ชาติแต่เชื่อว่าไทยจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเป็นแรงกดดันจากด้านซัพพลายเป็นหลัก