"พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ชูกลยุทธ์ "PLUS EXTRAORDINARY LIVING" เพิ่มมูลค่าที่อยู่อาศัยและการลงทุน

"พลัส พร็อพเพอร์ตี้" ชูกลยุทธ์ "PLUS EXTRAORDINARY LIVING" เจาะกลุ่มบ้าน คอนโดฯ ลักซ์ชัวรี่ ผ่าน 3 จุดเด่น ตอบรับโครงการระดับพรีเมี่ยม เพิ่มมูลค่าบ้าน คอนโดฯ เพื่อการอยู่อาศัย พร้อมเสริมพอร์ตการลงทุนให้โตสวนกระแสโควิด-19
สถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยสดใสมากนัก แต่กับตลาด บ้านหรู และ คอนโดหรู ในกลุ่มลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ยังคงมีกำลังซื้อต่อเนื่อง ด้วยยังมีความต้องการที่พักอาศัยพรีเมี่ยม หรูหรา บนทำเลศักยภาพ ขณะที่ซัพพลายของโครงการระดับ ลักซ์ชัวรี่ถือว่ายังมีจำนวนจำกัด
การเป็นโครงการลักซ์ชัวรี่ที่ตอบสนองทั้งการอยู่อาศัยและสามารถซื้อเพื่อลงทุน ก็มีองค์ประกอบในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในทำเลที่โดดเด่น อยู่ในเมืองชั้นในอย่าง CBD (Central Business District) หรือทำเลที่ถูกยกให้เป็นไพร์ม แอเรีย (Prime Area) การใช้วัสดุและการออกแบบที่หรูหรา การมีคอนเซ็ปต์โครงการที่สะท้อนรสนิยม เช่นเดียวกับการมีผู้บริหารโครงการ Property Management ที่เป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการดูแลทรัพย์สิน กายภาพของโครงการ ให้คงมูลค่า คงความสวยงามอยู่เสมอ
PLUS EXTRAORDINARY LIVING ชู 3 จุดเด่น
ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ถ้านึกถึงผู้บริหารโครงการในกลุ่มโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ ชื่อที่นึกถึงแรกๆ คือ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ดูแลโครงการระดับลักซ์ชัวรี่มานาน
สุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า พลัสฯ ตั้งเป้ารายได้จากการบริหารจัดการอาคารเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันบริหารอาคารกว่า 300 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,200 ล้านบาท
พลัสฯ เน้นรุกตลาดกลุ่มโครงการลักซ์ชัวรี ซึ่งในปีที่ผ่านมาพอร์ตงานบริหารโครงการกลุ่มลักซ์ชัวรี่ ของบริษัทฯ ยังมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยพลัสฯ จึงตั้งเป้าขยายการบริหารงานจัดการอาคารในกลุ่มลักซ์ซัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ซัวรี่ พร้อมกลยุทธ์ "PLUS EXTRAORDINARY LIVING : ดูแลบริหารจัดการโครงการอย่างเหนือชั้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะคุณ" โดยโฟกัสที่จุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่
- Timeless Property
การดูแลรักษาโครงการ และทรัพย์สินของโครงการ ให้คงมูลค่า คงความสวยงาม สามารถส่งต่อให้แก่คนรุ่นหลัง เช่น บ้านไข่มุกหัวหิน คอนโดมิเนียมโครงการแรกของแสนสิริมีอายุ 30 ปีแล้ว เป็นโครงการที่ได้รับการดูแลอย่างดี พิถีพิถันในการให้บริการ การเลือกวัสดุ รวมถึงการซ่อมแซมแม้ในจุดเล็ก อย่างการซ่อมแซมกระเบื้องโมเสกสีเหลืองมัสตาร์ด ก็ยังสั่งทำสีพิเศษเพื่อให้มีความใกล้เคียงของเดิมที่สุด ทำให้ราคาโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวในปัจจุบัน
โครงการ 98 Wireless คอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ใจกลางถนนวิทยุ ที่มีศิลปวัตถุมูลค่าสูงจัดวางในพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ เฟอร์นิเจอร์ไม้อายุ 200 ปี ภาพวาดงานศิลปะชั้นสูง หนังสือทรงคุณค่าตั้งแต่สมัยสงครามโลก หรือโครงการ KHUN by YOO ที่มีโคมไฟแชนเดอเลียที่เป็นงานศิลปะการเป่าแก้วปราณีตจากเมือง มูราโน่ ประเทศอิตาลี จึงต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้เฉพาะทางในการดูแลงานศิลปะและทรัพย์สินมูลค่าสูงเหล่านี้ รวมถึงการตกแต่งอาคารด้วยหินอ่อนที่นำเข้าจากอิตาลี หลากหลายรูปแบบที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะในการดูแลที่แตกต่างกัน
- Customized Service
การเข้าใจถึงแนวคิดโครงการ เข้าใจไลฟ์สไตล์ พฤติกรรม และความต้องการของผู้พักอาศัยที่มีความแตกต่างกัน จึงสามารถออกแบบบริการพิเศษเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดี เติมเต็มความสุขในการพักอาศัย ตัวอย่างบริการเฉพาะที่พลัสฯได้ออกแบบให้แก่กลุ่มลักซ์ชัวรี่ อาทิ โครงการ KHUN by YOO คอนโดทองหล่อ ที่ออกแบบโดย Philippe Starck ดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก พลัสฯ ได้ออกแบบเมนูเครื่องดื่มเฉพาะ อย่าง Nitro Cold Brew สำหรับให้บริการแก่ลูกบ้าน ซึ่งมีให้เลือกทั้งกาแฟ และชาไทย หรือโครงการ 98 Wireless และ The Monument Thong Lo ออกแบบบริการพิเศษจากบัตเลอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- Extraordinary Experience
การมอบบริการพิเศษเพื่อสร้างประสบการณ์ Surprise & Delight สำหรับลูกบ้าน นอกเหนือไปจากบริการทั่วไป เช่น โครงการบ้านแสนสิริพัฒนาการ ที่มีบริการช่วยจัดการ Event พิเศษสำหรับลูกบ้าน โครงการ 98 Wireless ที่มีบริการส่งพัสดุถึงห้องพัก บริการรับอาหารจาก delivery จัดจานพร้อมเสิร์ฟในห้องประชุม Private Lounge รวมถึงบริการเข้าซ่อมบำรุงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องพัก การจัดกิจกรรม Exclusive เช่น Sunset Evening Cocktail Night, Movie Night พร้อมเป็น organizer จัดงานในโอกาสพิเศษต่างๆ
"พลัสฯ ตั้งเป้ากวาดโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ เข้าพอร์ต เพิ่ม 20% หรือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนเป็นคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 65% และบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ 35% พร้อมมั่นใจถึงการบริหารจัดการกลุ่มนี้ด้วยความเชี่ยวชาญด้านบริการอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 25 ปี กับทีมงานคุณภาพมากประสบการณ์ในการดูแลผู้พักอาศัยแบบในระยะยาว อีกทั้งมีความเข้าใจงานบริหารอาคารครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น การดูแลบริหารจัดการการอยู่อาศัยร่วมกัน ความพิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียดของลูกค้า ความโปร่งใสในการบริหารงาน การเข้าใจ พรบ. กฎหมายอาคาร การบริหารจัดการซัพพลายเออร์ ซึ่งต้องมีการวางแผนงานดูแลอย่างต่อเนื่อง" คุณสุวรรณี กล่าว
สำหรับการดำเนินธุรกิจบริหารอาคาร ปัจจุบัน พลัสฯ บริหารโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ อาทิ KHUN by YOO, 98 Wireless, The Monument Thong Lo, บ้านแสนสิริพัฒนาการ, The River, Nivati Thonglor 23, Athenee Residence และ The Bangkok Sathorn ในปี 2565 ยังคงเดินหน้ารับธุรกิจบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัย ครอบคลุมโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม เพื่อตอบสนองลูกค้าทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน
ผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามบริการได้ทาง โทร. 02-688-7555 และ plus property website







