ธนารักษ์รอ ‘คำสั่ง’ เซ็นสัญญาท่อส่งน้ำอีอีซี

กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างรอคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะให้ดำเนินโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือท่อส่งน้ำอีอีซีอย่างไรต่อไป หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลการตรวจสอบและรายงานต่อรมว.คลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อธิบดีกรมธนารักษ์ ประภาศ คงเอียด ระบุ กรมฯอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะให้ดำเนินโครงการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือท่อส่งน้ำอีอีซีอย่างไรต่อไป หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปผลการตรวจสอบและรายงานต่อรมว.คลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ประเด็นที่มีการตรวจสอบหลักเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับสังคม คือ กระบวนการคัดเลือกผู้เข้าดำเนินโครงการเป็นไปโดยต้องด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่วนเรื่องของศักยภาพของท่อน้ำ และ เปรียบเทียบรายได้ของผู้ดำเนินโครงการในปัจจุบันนั้น คณะกรรมการได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ

“ประเด็นเรื่องการตรวจสอบศักยภาพของท่อน้ำ และ เรื่องการเปรียบเทียบการนำส่งรายได้นั้น ประเด็นนี้ได้ถูกตั้งขึ้น เพื่อให้คณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ เพราะว่า ดีเอสไอได้มีหนังสือถึงกรมฯว่า อาจจจะมีการกระทำในเรื่องส่งรายได้ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นเรื่องของเลี่ยงภาษีอากรด้วย”

อย่างไรก็ดี เนื่องจาก คณะกรรมการชุดนี้จะสามารถตรวจสอบได้ในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป จะเป็นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ และ อาจต้องร่วมกับกรมสรรพากรด้วย เพราะไม่อยู่ในอำนาจของกรมธนารักษ์

“เรื่องของภาษีนั้น ทางดีเอสไอและกรมสรรพากรจะเข้าไปตรวจสอบจากการดำเนินโครงการรายเดิม คือ บริษัท อีสท์วอเตอร์ ส่วนที่มาที่ไปของการตั้งประเด็นตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เป็นเพราะดีเอสไอได้ทำหนังสือมาถึงกรมฯก่อนที่จะได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ไม่ใช่ว่า กรมฯได้ส่งหนังสือให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบ”

ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบทั้งหมด จะไม่เกี่ยวข้องกับการเดินหน้าเซ็นสัญญาการประมูลกับผู้ชนะประมูลรายใหม่ คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด และไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งศาลปกครองกรณีที่มีการฟ้องร้องจากอีสท์วอเตอร์ เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดให้รอ อย่างไรก็ดี กรมฯต้องรอคำสั่งจากรมว.คลังก่อนว่า จะให้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร