เปิด 10 อันดับ “กองทุนหุ้นจีน” ผลตอบแทนสูงสุด ฝ่าล็อกดาวน์โควิดเซี่ยงไฮ้

"แนวโน้มเศรษฐกิจจีน" ที่จะได้รับผลกระทบจากการ ล็อกดาวน์ (lockdown) ทำให้ตลาดปรับตัวลงโดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนไปที่ผลตอบแทนกองทุนหุ้นจีนเฉลี่ยสะสมปีนี้ที่ -23.8% (ข้อมูล ณ วันที่ 13 พ.ค. 2565) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมลดลง 18% จากสิ้นปี 2564 มาอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท ในรอบ 4 เดือนแรกมีเงินไหลเข้าสุทธิ 6.8 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก"มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ (ประเทศไทย)" ณ 20 พ.ค.2565  พบว่า  "กองทุนหุ้นจีน" แม้จะติดลบ แต่กองทุนที่สามารถมีผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก ดังนี้ 

1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน  (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) : SCBCEE ผลตอบแทน -10.12 %

2.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน (ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล) : SCBCEP ผลตอบแทน -10.40%

3.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน :SCBCE ผลตอบแทน -10.47%

4.กองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอซเอสไอ : ASP-HSI ผลตอบแทน -10.65%

5.กองทุนเปิดวรรณไชน่าออโต้รีเต็มชั่นฟันด์ : ONE-CHINA ผลตอบแทน -11.03%

6.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) : SCBCEHE ผลตอบแทน-11.67%

7.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล) : SCBCEHP ผลตอบแทน -11.99%

8.กองทุนเปิดกรุงศรีไซน่าอิควิตี้ : KF-CHINA ผลตอบแทน-12.00%

9.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ : SCBCEH ผลตอบแทน-12.01%

10.กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Shares อิควิตี้ เพื่อ การเลี้ยงชีพ : TCHRMF ผลตอบแทน -12.38%

 

แม้การระบาดของโควิดจะไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อประชาชนในหลายประเทศในขณะนี้ แต่จากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนได้ และในระยะยาวผู้ลงทุนควรทราบถึงการเติบโตของจีนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการลดการพึ่งพาการลงทุนและ credit growth ที่ลดลง

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ(ประเทศไทย) กล่าวว่าการเปิดเมืองอาจทำให้ตลาดกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงนี้

แต่แนะนำว่า นักลงทุนยังต้องระวังความเสี่ยงจากที่จีนยังดำเนินนโยบาย zero-Covid การปรับดอกเบี้ยนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นสภาพคล่องกลุ่มอสังหาที่กำลังประสบปัญหายอดขายหดตัว หากสร้างผลบวกได้จำกัดจะเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีนได้