เจาะกลยุทธ์ PT Max Park Salaya น่านน้ำใหม่นอนออยล์เสริม‘อาณาจักรพีทีจี’

เจาะกลยุทธ์ PT Max Park Salaya  น่านน้ำใหม่นอนออยล์เสริม‘อาณาจักรพีทีจี’

“น้ำมัน” เป็นธุรกิจหลักทำเงินให้กับ “พีทีจี” แต่การโตต่อในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ความไม่แน่นอนสูง (VUCA world) ทำให้องค์กรต้องหาน่านน้ำใหม่ หรือ New S-Curve มาเสริมทัพ

ระยะเวลา 9 ปี คือ เส้นทางเดินของ “พีทีจี” ในการรุกธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันหรือ Non-Oil จากจุดเริ่มมี “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” ปัจจุบันสยายปีกสู่ร้านกาแฟคอฟฟี่ เวิลด์ ร้านยา NEXX Pharma มีค้าปลีกอย่างร้าน Max Mart ผนึกพันธมิตรเปิดร้านสะดวกซัก WashXpress เป็นต้น

ทว่า จิ๊กซอว์ใหม่ ที่จะทำให้นอนออยล์ของ “พีทีจี” ไปได้ไกลยิ่งขึ้น คือการทุ่มทุนราว 180 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน) พัฒนาพื้นที่ 9 ไร่ ปั้นโปรเจกต์ “PT Max Park Salaya” คอมมูนิตี้มอลล์และสถานีบริการน้ำมันเต็มรูปแบบสุดทันสมัยแห่งแรก บนถนนบรมราชชนนี อ.ศาลายา จ.นครปฐม

โมเดลต้นแบบเป็นอย่างไร จะนำไปสู่การเติบโตระยะยาวแบบไหน แม่ทัพใหญ่ พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG พร้อมฉายภาพ

ย้อน 30-40 ปีก่อน สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) เป็นเพียงจุดที่ผู้บริโภค คนเดินทางจะแวะเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ และรับประทานอาหารข้าวแกงเป็นหลัก แต่ปัจจุบันปั๊มล้ำกว่านั้น เพราะมีการปรับตัว พลิกโมเดลให้ตอบทุกความต้องการของผู้บริโภค วิวัฒนาการ 20-25 ปี ถัดมาเริ่มมี “ร้านกาแฟ” เป็นแม่เหล็กในปั๊มมากขึ้น

เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น มีการซื้อรถ เกิดการเดินทางท่องที่ยวทั่วไทย ปั๊มจะไม่ใช่แค่ปั๊มน้ำมันอีกต่อไป แต่ต้องสนองความต้องการผู้บริโภคยิ่งกว่าเดิม จุดเปลี่ยนเกิดอีกเมื่อวิกฤติโควิด-19 เปลี่ยนโจทย์ให้ปั๊มมีทุกอย่าง “ครบจบที่เดียว” โดยขนาดพื้นที่ปั๊ม เดิมใช้ 2-3 ไร่ ปัจจุบันขยายเป็น 4-5 ไร่ ผู้ประกอบการฟาดฟันถึงขนาดใหญ่ 10-15 ไร่ เพื่อสร้างความครบครัน

“ย้อนไปวันแรกที่เราตัดสินใจรุกนอนออยล์ เราถูกมองว่าตัดสินใจผิด วันนี้พิสูจน์แล้วไม่ได้ตัดสินใจผิด การรุกนอนออยล์เกิดจากบทเรียนปี 2540 วิกฤติต้มยำกุ้ง อย่ามองโลกสวย ต้องมอง worst case scenario อย่าใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว ขณะที่การขยายปั๊มน้ำมัน อนาคตจะไม่ใช่แค่ปั๊มแล้ว แต่ต้องมีบริการครบครัน”

อีกเหตุผลที่ทำให้ “พีทีจี” ทุ่มทุนสร้างโปรเจกต์ “PT Max Park Salaya” เพื่อต่อยอดขุมทรัพย์ข้อมูลจากบัตรสมาชิก PT Max Card ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้ามากกว่า 17.3 ล้านราย โดยพฤติกรรมเชิงลึก ลูกค้าซื้อสินค้าผสมผสานหมวด เช่น เติมน้ำมัน ซื้อกาแฟ หรือซื้อกาแฟ ซื้อสินค้าใน Max Mart หรือเข้าศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจรมาตรฐานญี่ปุ่นออโต้แบคส์ ฯลฯ ปัจจุบันลูกค้าสมาชิกใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตขึ้น จากสัดส่วน 60% เป็น 73%

เมื่อ “PT Max Park Salaya” เป็นมากกว่าปั๊ม โครงการจึงแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 1.สถานีบริการน้ำมัน มีการติดตั้งหัวจ่ายน้ำมันระบบดิจิทัลรวม 30 หัวจ่าย และมี “พีที เซอร์วิส มาสเตอร์” 19 คน ผ่านการพัฒนาจากสถาบันระดับโลก รวมถึงปรับลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า

“พีที เซอร์วิส มาสเตอร์ กว่าจะได้มาต้องคัดเลือกจาก 10 ต่อ 1 คน เพื่อปรับมายด์เซ็ท โค้ชชิ่ง สร้างคุณภาพ มาตรฐาน ซึ่งมั่นใจว่าปั๊มแห่งนี้จะให้บริการลูกค้าอย่างดีสุด”

2.พื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ โดยเต็มไปด้วยร้านค้าแม่เหล็กตอบทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า เช่น ร้านกาแฟพันธุ์ไทย คอฟฟี่ เวิลด์ Co-working Space ร้านสะดวกซัก แม็คโดนัลด์ Max Mart NEXX pharma เป็นต้น

“เราเลือกทำเลศาลายา เพราะสำรวจกลุ่มเป้าหมายที่จะมายัง PT Max Park Salaya มีหมู่บ้านจำนวนมาก และเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งห่างสถาบันการศึกษาเพียง 400-500 เมตรเท่านั้น”

ความครบครันของ PT Max Park Salaya จึงคาดว่าจะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการนานขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 นาที จากเดิมการแวะปั๊มน้ำมันทั่วไปใช้เวลา 10-15 นาที ยิ่งกว่านั้นจะซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น

โครงการเปิดตัวเฟสแรกไปราว 3 เดือน ผลลัพธ์เบื้องต้น มีลูกค้าเข้ามาเติมน้ำมันเฉลี่ยแตะเกือบ 1 ล้านลิตรต่อเดือน สูงกว่าคาดการณ์ไว้ 5-6 แสนลิตรต่อเดือน หากคอมมูนิตี้มอลล์เปิดให้บริการเต็มสูบ คาดจะดึงดูดลูกค้าเข้ามาเติมน้ำมันแตะ 2 ล้านลิตรต่อเดือน ลูกค้าที่เติมน้ำมันจะใช้จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในร้านค้าต่างๆมากขึ้นด้วย

“ทั้ง 2 ส่วนจะเอื้อกันเพื่อดึงทราฟฟิก และทำให้โครงการคืนทุนภายใน 3-5 ปี จากเดิมอาจอยู่ที่ 6-7 ปี”

โมเดล PT Max Park Salaya ยังตอบโจทย์การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล หรือ “Data-Driven Organization” โดยเฉพาะสมาชิกบัตร PT Max Card ที่วันนี้มีฐานลูกค้ากว่า 17 ล้านราย แต่ในปี 2569 คาดการณ์แตะ 30 ล้านราย จะเป็น “อาวุธ(ไม่)ลับ” ในการทำตลาด ลอยัลตี้โปรแกรมต่างๆ เพราะทุกการใช้จ่ายของลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสม นำไปแลกซื้อสินค้าได้ทุกร้านในโครงการด้วย

“ฐานข้อมูลลูกค้า” เป็นขุมทองธุรกิจ อนาคตบริษัทจะดึงพันธมิตรมาอยู่ในอีโคซิสเทม ซึ่งมองมากกว่า 6,000 ราย จากปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์หลักร้อยราย ร่วมให้สิทธิประโยชน์แก่สมาชิก PT Max Card

“ธุรกิจมีเงิน สถานที่ก็ลงทุนได้ แต่อีโคซิสเทมที่เราสร้างฐานสมาชิก Max card มากขนาดนี้ หากร่วมกับพาร์ทเนอร์ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าได้ก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะยุคนี้การแข่งขันเป็นเรื่องของ Economy of Speed และ Economy of Network”

ภารกิจเสริมแกร่ง “นอนออยล์” ยังไม่หมด พิทักษ์ ฉายแผนระยะยาวจะลุยกลยุทธ์ Co-Creation สร้างธุรกิจใหม่ 4-5 รายการต่อปี สานเป้าหมายปี 2569 “อาณาจักรพีทีจี” มีธุรกิจแตะ 30-50 กลุ่ม จากปัจจุบันมี 8 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันและค้าปลีก 2.จำหน่ายแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) 3.ขนส่งและการจัดการคลังสินค้า 4.พลังงานทดแทน ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลและน้ำมันปาล์มบริโภค 5.ระบบการบริหารและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ในสถานีบริการ 6.อาหารและเครื่องดื่ม 7.ศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ และรถเชิงพาณิชย์ และ8.ธุรกิจบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ จะผลักดันสัดส่วนกำไรกลุ่มนอนออยล์ให้อยู่ที่ 60-70% และน้ำมันอยู่ที่ 30-40% 

ยิ่งกว่านั้น PT Max Park Salaya ยังเป็นหัวใจสำคัญเพื่อสืบสานพันธกิจการช่วยยกระดัยคุณภาพชีวิตคนไทยให้ “อยู่ดีมีสุข” ด้วย