‘จุรินทร์’ เปิดเวทีรมต.เศรษฐกิจดัน FTA-APEC

จุรินทร์ "นำร่องขยายโอกาสประเทศไทย" ใช้เวที APEC เจรจาเน้นทำ FTAAP สำเร็จตามเป้าปี 2040 เพิ่มมูลค่าการค้า 200-400%

วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค 2022 ซึ่งมีกำหนด ถึงวันที่ 22 พ.ค.  โดยจะเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีพาณิชย์ แต่ละประเทศจะได้หารือในการร่วมมือทางการค้า ในช่วงโคิวิด-19 และความร่วมมือในอนาคต และ วันนี้ประเทศไทยก็ได้ประกาศนโยบายในการผลักดันให้เอเปค เป็น FTA เอเปค ตามเป้าหมายให้ได้ภายในปี 2040

 

 

สำหรับช่วงแรก เป็นงานสัมมนา การขับเคลื่อนการจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วง โควิด-19 และอนาคต โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดเข้าร่วม 

โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ในช่วง 4 วันนี้ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะนำสู่การออกแถลงการณ์ร่วม ในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ระดับนายกรัฐมนตรี  21 เขต เศรษฐกิจ ในช่วงเดือน พ.ย. ต่อไป 

กิจการสัมมนา การขับเคลื่อนการจัดทำเขตการค้าเสรี เพื่อขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ของกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปค จะหาข้อสรุปร่วมกัน ในการขับเคลื่อนเอเปค ไปเป็น FTA เอเปค ในปี 2040 ว่า จะมีแนวทาง และขอบเขต  รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ อย่างไรและสามารถทำได้แค่ไหน

ทั้งนี้ หากสามารถผลักดัน เอเปคเป็น FTA เอเปค จะเป็นประโยชน์มหาศาล เพราะจะกลายเป็นเอเปค ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มี GDP รวมกัน 62% ของ GDP โลก อีกทั้งจะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 200-400% 
ส่งผลให้ภาษีการค้า นำเข้า ส่งออกระหว่างกันเป็น 0 ไม่จำเป็นต้องตรวตสอบสินค้าซ้ำซ้อนหลายครั้ง  รวมถึงจะเป็นโอกาสในการเปิดตลาดและการค้าการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย
สำหรับประเทศไทย วางไว้ 3 เป้าหมาย ประกอบด้วย  “Open. Connect. Balance.” คือการที่จะเปิดกว้างให้มีการเคลื่อนไหวทางการค้าการลงทุนระหว่างกันของกลุ่มเศรษฐกิจเอเปค การเชื่อมโยงทางการค้าการลงทุนทั้งภาคการผลิต ห่วงโซ่การผลิต การตลาดร่วมกันในกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเปค และสร้างสมดุลทั้งในสิ่งแวดล้อมและการค้าการลงทุนให้ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจได้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้หารือทวิภาคี กับ นายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ จีนฮ่องกง  ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังการหารือเสร็จสิ้น