สศช.หั่นคาดการณ์ GDP เหลือ 3% ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก

สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2565 เหลือโต 2.5-3.5% หลังเจอปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัว 2.2% หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมา

เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ดนุชา พิชยนันท์ ระบุ สภาพัฒน์คาดว่าทั้งปี 2565 เศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ในช่วง 2.5-3.5% มีค่ากลางอยู่ที่ 3% ปรับลดลงมาจากคาดการณ์เดิม 3.5-4.5% เนื่องจากความไม่แน่นอนของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่วนเครื่องยนต์หลักจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การส่งออก และการท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 7 ล้านคน 

สำหรับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจในปี 2565 ควรให้ความสําคัญกับการรักษาแรงขับเคลื่อนทาง เศรษฐกิจจากการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน โดยการติดตาม เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดของ โรคโควิด-19 การดูแลและแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน การดูแลกลไกตลาดเพื่อให้ราคาสินค้าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตและการดูแลกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ ราคาสินค้า 

รวมถึงการสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวเนื่อง โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และมีกําลังซื้อสูง 
การพิจารณามาตรการสินเชื่อและมาตรการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้ สามารถกลับมาประกอบธุรกิจได้

สำหรับเศรษฐกิจไตรมาสแรกขยายตัว 2.2% เป็นผลมาจากเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจขยายตัวเกือบทุกตัว โดยเฉพาะการส่งออกสินค้า ยกเว้นการก่อสร้างที่ติดลบ 5.5%  เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด กิจกรรมทางเศรษฐกิจจึงกลับมา โดยการบริโภคขยายตัวได้ 3.9% ขณะที่การส่งออกอยู่ที่ 10.2%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยแม้จะเผชิญข้อจำกัดความขัดแย้ง แต่ยังขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจไตรมาส 4 ของปี 2564 แต่ยังต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เพราะมีผลต่อพลังงาน และการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย และข้าวสาลี ที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น