Cryptomind ส่อง บิตคอยน์จ่อแตะ 20,000ดอลล์ ชี้เป็นจังหวะเข้าซื้อ

Cryptomind ส่อง บิตคอยน์จ่อแตะ 20,000ดอลล์ ชี้เป็นจังหวะเข้าซื้อ

Cryptomind ชี้ตลาดผันผวนแรง หลังกังวลขึ้นดอกเบี้ยเฟด หวั่นบิตคอยน์ จ่อปรับลงแตะ 2หมื่นดอลลาร์ แนะเป็นโอกาสเข้าลงทุน คาดพอร์ตภายใต้บริหารปีนี้โต3-5เท่าสู่ระดับหมื่นล้านบาท

      นายสัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และที่ปรึกษาสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยแห่งประเทศไทย กล่าวว่าหากดูการเคลื่อนไหวของราคาของ Bitcoin ล่าสุด พบว่าปรับตัวลดลง มาอยู่ที่ระดับ 27,000 ดอลลาร์ จากระดับ 30,000 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ 

      ซึ่งการปรับตัวลดลงของด้านราคาถือว่าเป็นภาวะปกติ ที่เกิดขึ้นได้ ตามปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะ ความกังวลที่นักลงทุนมีต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และการลดการทำQuantitative Tightening (QT) หรือการดึงสภาพคล่องออกจากตลาดการเงิน รวมถึงความกังวลที่อาจเกิดฟองสบู่ใน เหรียญ LUNA ที่เป็น Stablecoin ที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บิตคอยน์ปรับตัวลงตามไปด้วย

       ดังนั้นจึงถือว่า เราอาจเข้าสู่ภาวะที่ตลาดของคริปโทเคอเรนซี่ ซบเซาอีกรอบ ส่วนระยะข้างหน้า ราคาบิทคอยน์จะปรับลงอีกหรือไม่นั้น เชื่อว่า มีโอกาสลงได้อีก ตามความผันผวน และความกังวลปัจจัยต่างประเทศ

     โดยเฉพาะการทำนโยบายการเงินของเฟด ที่ส่งผลให้ตลาดขาดความเชื่อมั่นและกังวล ซึ่งอาจเห็นราคาบิตคอยน์ ลงไปต่ำสุด ที่ระดับ 20,000-22,000 ดอลลาร์ได้

     “ราคาบิตคอยน์ ระดับดังกล่าว แม้จะต่ำลง แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่าอดีต เมื่อย้อนดูราคาบิตคอยน์เมื่อ 2ปีก่อน เวลาเดียวกันนี้ พบว่าราคาตอนนั้นลงไปที่ระดับ 8700 ดอลลาร์ และพบว่า ใช้ระยะเวลา 3 เดือนบิตคอยน์ ลงไปต่ำสุด ที่ 4,000 ดอลลาร์ ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดมีความผันผวน ขึ้นอยู่กับปัจจัยตลาดโลก ดังนั้น ความเสี่ยงที่จะเห็นราคาบิตคอยน์ลงต่ำกว่าระดับปัจจุบันไปสู่ 20,000 ดอลลาร์ ถือว่าเกิดขึ้นได้ ดังนั้นต้องเตรียมบาลานซ์พอร์ตให้ดี”

      อย่างไรก็ตาม ระดับราคาดังกล่าว หรือลงมากกว่านี้ถือเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน และเป็นจุดที่สวยมาก

      ดังนั้นหากใครใจแข็งก็อาจหาโอกาสเข้าลงทุนได้ แต่การซื้อดังกล่าวต้องแบ่งพอร์ตจาก 100%มาลงทุนคริปโทระดับ 10-20% และเน้นถือยาว 6 เดือนถึง 1ปี 

       สำหรับพอร์ตภายใต้การบริหารของ บริษัท ปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจากการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ การมีบทวิเคราะห์ การให้คำแนะนำกับนักลงทุนในด้านการลงทุนต่างๆ จะมีส่วนหนุนสำคัญให้พอร์ตภายใต้การบริหารของบริษัทเติบโตได้อีก 3-5 เท่า หรือมีสินทรัพย์ภายใต้บริหารแตะ 1 หมื่นล้านบาทได้ในปีนี้

     นายกานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy และ Bitcoin Addict Thailand กล่าวว่า หากดูตลาดคริปโทฯ พบว่า มีเหรียญที่เกิดขึ้นค่อนข้างมากเป็นพันเหรียญที่เทรดอยู่ในตลาด ดังนั้นจำเป็นที่ต้องใช้ความละเอียดมากในการเข้าไปลงทุน

      ทั้งนี้การปรับลดลงของบิตคอยน์ล่าสุด แม้จะผันผวน แต่ยังมองว่ามีความน่าสนใจ เพราะหากดูการเข้าใช้งาน การซื้อขายในตลาดคริปโทฯ มีมากขึ้นหากเทียบกับ 4-5 ปีก่อน ปัจจุบันร ไม่ใช่มีแค่เรื่องของการซื้อขาย เพื่อทำกำไร แต่จะเห็นได้ว่า มีการเอาคริปโทฯมาใช้ในระบบการเงิน ในด้านต่างๆ หรืออยู่บนโลกของ DeFi หรือ Decentralized Finance มากขึ้น

     โดยหากดูคริปโทฯ ในตลาดของ DeFi ปัจจุบันสังเกตได้ว่าเป็นที่รวมของกระแสเงินสดของนักลงทุน โดยมีเงินอยู่ในระบบของ Defi สะสมถึง 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า มีการใช้งานจริงที่เกิดขึ้นแล้ว มากกว่าการซื้อขายเท่านั้น