‘โรบินฮู้ด ทราเวล’ อัดโปรฯแรงเปิดตัว! วอนรัฐคืน ‘ความปกติ’ สู่ภาคท่องเที่ยว

‘โรบินฮู้ด ทราเวล’ อัดโปรฯแรงเปิดตัว! วอนรัฐคืน ‘ความปกติ’ สู่ภาคท่องเที่ยว

จากคำปรามาสเมื่อ 20 เดือนก่อน ตอนคิกออฟแอพพลิเคชั่น “โรบินฮู้ด” (Robinhood) เข้าสู่สมรภูมิแอพฯส่งอาหารหรือ “ฟู้ดดิลิเวอรี่” อันดุเดือดเลือดพล่าน มีแต่คนฟันธงว่า “เจ๊งแน่นอน!” 

ทว่าจากผลการสำรวจระบุว่าปัจจุบันโรบินฮู้ดสามารถผงาดขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล พิสูจน์ว่าโมเดล “ซีโร่ คอมมิชชั่น” (Zero Commission) ไม่เก็บค่า GP จากร้านอาหารนั้นมาถูกทางและถูกเวลา!

จนมียอดสั่งอาหารราว 2 แสนครั้งต่อวัน มียอดการทำธุรกรรมบนแอพฯ 4.8 ล้านครั้งต่อเดือน ด้วยจำนวนร้านอาหารเข้าร่วมกว่า 2.8 แสนร้าน และไรเดอร์ขนส่งอาหาร 3 หมื่นคน สามารถสร้างฐานยอดผู้ใช้งานได้กว่า 2.8 ล้านคน และน่าจะเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทยรายเดียวที่ลุยกับต่างชาติได้ ในฐานะ “ตัวป่วน!” ของสนามฟู้ดดิลิเวอรี่

ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม โรบินฮู้ด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เอสซีบี เท็นเอ็กซ์ (SCB 10X) อยู่ภายใต้กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ เล่าว่า หลังจากให้ธุรกิจ “ฟู้ดดิลิเวอรี่” เล่นบท “Loss Leader” ผู้นำ (จำใจ) ขาดทุน! ตามกลยุทธ์การทำธุรกิจสไตล์ “สตารฺ์ทอัพ” เพื่อสร้างฐานผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม กรุยทางการทำกำไรในธุรกิจอื่นๆ ก็ถึงเวลาเปิดตัว “โรบินฮู้ด ทราเวล” (Robinhood Travel) แบบซอฟต์ลอนช์เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.) ลุยสู้ศึกแพลตฟอร์มสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) ซึ่งมีบรรดาขาใหญ่รอช่วงชิงตลาด “ไทยเที่ยวไทย” รับภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว

โรบินฮู้ด ทราเวล จึงเลือกเดินหมากในช่วงเปิดตัว ประเดิมด้วยการชูแนวคิด “เรื่องกินเรื่องเที่ยว เรื่องเดียวกัน” เมื่อลูกค้าจองที่พักกับโรบินฮู้ด ทราเวล รับสิทธิ์โค้ดส่วนลดค่าส่งอาหารฟรีสูงสุด 20 ครั้ง ในระยะทางไม่เกิน 30 กิโลเมตร พร้อมส่งโปรโมชั่นสุดปัง! มอบส่วนลด 50% เมื่อจองที่พักพูลวิลล่า (Pool Villa) จากโรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 10-31 พ.ค.นี้ หรือจนกว่าสิทธิจะครบตามจำนวน 800 สิทธิมากระตุ้นยอดจอง เสริมจุดขายสำคัญ “ซีโร่ คอมมิชชั่น” ที่นำมาใช้กับการจองโรงแรมที่พักด้วย แตกต่างจาก OTAs เจ้าอื่นๆ โดยบริษัทฯประเมินว่าโรบินฮู้ด ทราเวล จะมีผลการดำเนินงาน “เท่าทุน” ไม่ได้ขาดทุนเหมือนฟู้ดดิลิเวอรี่

ส่วนเหตุผลที่เลือกเปิดตัว โรบินฮู้ด ทราเวล ในช่วงนี้ เป็นเพราะภาคการท่องเที่ยวกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจากสถิติพบว่ายอดจองห้องพักโรงแรมในไทยช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กลับสู่ระดับ 75% เทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยโหยหาและคิดถึงการท่องเที่ยว!

“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรบินฮู้ด ทราเวล คือกลุ่มคนมีเงิน กำลังซื้อสูง เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Starbucks Segment

สีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 6-7 เดือนที่ผ่านมา เราได้เตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการโรบินฮู้ด ทราเวล โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับ 3-5 ดาว เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 16,000 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งในเฟสแรกนี้เราเปิดให้บริการเฉพาะการจองที่พัก ก่อนขยายสู่บริการอื่นๆ ได้แก่ บริการจองทัวร์และกิจกรรม กับบริการเช่ารถในเดือน มิ.ย. และบริการจองตั๋วเครื่องบินในเดือน ก.ค. มุ่งสู่การเป็น “ผู้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร” (All-in-One Travel Service)

และด้วยความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าโรบินฮู้ด ฟู้ดเดลิเวอรี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทำให้เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าภายในปีแรกที่เปิดให้บริการโรบินฮู้ด ทราเวล จะมีผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยวเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 30,000 ราย ทั่วประเทศ มีจำนวนลูกค้าผู้ใช้งานกว่า 200,000 ราย มีทริปเกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มกว่า 300,000 ทริป สามารถช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายจากค่าคอมมิชชั่นได้กว่า 200 ล้านบาท และสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 1 พันล้านบาท

สำหรับแผนธุรกิจของโรบินฮู้ดในก้าวถัดไป คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) ในเดือน ก.ค. 2565 และในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้จะสามารถเปิดให้บริการรับ-ส่งของ (Express Service) และบริการ Ride- Hailing หรือบริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามลำดับ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่มาช่วย “สร้างกำไร” แก่โรบินฮู้ด เดินหน้าสู่การเป็น Super App สัญชาติไทย” ที่สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาคต่อไป (Regional Player)”

ธนา เล่าเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมาก ประเทศไทยรอดมาได้จากวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 เพราะภาคส่งออกและท่องเที่ยว แต่ตอนนี้ภาคส่งออกกลับมาทำหน้าที่ได้เต็มที่แล้ว แต่ถ้านักท่องเที่ยวไม่มา ประเทศไทยก็จะเงียบเหงาอีกยาว ดังนั้นเราต้องแข่งกับหลายๆ ประเทศ ต้อง “คืนความปกติ” ให้กับการท่องเที่ยว!

“ตอนนี้วิธีการเข้าเมืองยังมีความไม่ปกติ ดังนั้นผมว่าภาคการท่องเที่ยวไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่าขอความปกติกลับคืน เคยทำแบบไหนได้ อะไรที่มันไม่ปกติ ช่วยทำให้มันปกติ ทำสิ่งที่เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ประเทศอื่นทำ เช่น การยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส แล้วเชื่อมโยงไปกับระบบอื่นที่ง่ายและสะดวกกว่า”