เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

อัปเดต "กลโกง" มิจฉาชีพรู้ทันเทคนิค "หลอกลงทุน" ชวน "เทรดหุ้น" และ "เทรดคริปโทฯ" ก่อนเสียเงินฟรี พร้อมคำแนะนำจากเซียนหุ้น "ซัน-กระทรวง จารุศิระ"

"มิจฉาชีพ" ไม่ได้มีแค่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่กำลังระบาด แต่ยังแฝงอยู่ในทุกวงการ ไม่เว้นแวดวงการลงทุนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหุ้น, ลงทุนคริปโทฯ และลงทุนธุรกิจต่างๆ ที่มักจะมีข้อเสนอสุดจูงใจชวนให้อยากร่วมลงทุน เข้าเส้นทางรวยฟ้าผ่า รวยเร็วแบบพลิกฝ่ามือกับเขาสักครั้ง

ช่วงที่ผ่านมา มีกระแสหลอกลงทุนหลากหลายรูปแบบ และมีคนสูญเงินไปไม่น้อย "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวม เคสหลอกลงทุนที่กำลังระบาดพร้อมวิธีสังเกตการหลอกลวงลงทุนในยุคนี้

  •  มีโอกาสโดนหลอกลงทุนแบบไหนบ้าง ? 

- การแอบอ้างชื่อผู้มีชื่อเสียงเพื่อชักชวนลงทุน เช่น กรณีปลอมไลน์ ซีอีโอ WHA หรือ จรีพร จารุกรสกุล เพื่อหลอกให้ร่วมลงทุน, แก๊งมิจฉาชีพใช้ชื่อบริษัท อมตะฯ และโลโก้แอบอ้างลวงคนร่วมลงทุนผ่านระบบ Line Official เพจ Facebook และช่องทางอื่นๆ, ใช้โลโก้ ก.ล.ต. เปิดเพจเพื่อหลอกให้ประชาชนร่วมลงทุน เป็นต้น

เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

- การเปิดเพจชวนลงทุนผลตอบแทนสูง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ทำให้หลายคนตัดสินใจร่วมลงทุน เพราะหวังผลตอบแทนสูงลิบ โฆษณาว่ารวยได้ง่ายๆ หรือลงทุนแล้วจะไม่ต้องลำบากอีกต่อไป เช่นกรณี "Nutty’s Diary" หรือ "นัตตี้" ยูทูบเบอร์คนหนึ่ง เปิดรับโอนไปเทรดหุ้น โดยระบุว่าจะกำไรโอนให้ทุกเดือน สูงสุดเดือนละ 35% แต่ระยะหลังไม่มีกำไร และไม่มีการโอนเงินคืน และเริ่มมีผู้เสียหายจำนวนมาก โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมถึง 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว 

โดยสิ่งที่ทำให้หลายคนหลงเชื่อคือ  การให้ข้อมูลที่ตอบคำถามที่หลายคนมักตั้งข้อสังเกตก่อนตัดสินใจลงทุน เช่น ทำไมต้องมาเทรดให้ เทรดให้แล้วจะได้เงินจริงหรือไม่ หลายคนเมื่อได้คำตอบและเชื่อก็ตัดสินใจร่วมลงทุน นอกจากนี้ยังมีการใช้โซเชียลมีเดียในการอัปเดตข้อมูลที่อ้างว่าได้กำไรสูง ที่ทำให้คนที่กำลังลังเลอยากลองลงทุนดูสักครั้ง

เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ

"ซัน กระทรวง จารุศิระ" ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท SUPERTRADER HOLDING และเจ้าของแชมป์สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทย 2013 หนึ่งในนักลงทุนที่อยู่ในแวดวงหุ้นนาน 20 ปี มาอัปเดต "กลโกง" หลอกลงทุนในตลาดหุ้นไทย พร้อมเทคนิคสังเกตการลงทุนลวงโลกที่ช่วยเป็นเกราะป้องกันการตกเป็นเหยื่อรายต่อไป 

"จากประสบการณ์ 20 ปี การหลอกลงทุนมีมาทุกสมัย วิวัฒนาการของการหลอกหลวง ไม่ได้เปลี่ยนแนวคิดแต่เปลี่ยนที่ผลิตภัณฑ์ที่เอามาล่อ อย่างในอดีตอาจจะเป็น Forex, ปาล์มน้ำมัน, สวนทุเรียน, ตั๋วเครื่องบิน, ยุคใหม่อาจเป็น คริปโทเคอร์เรนซี, หุ้น ฯลฯ โดยมัก จูงใจด้วยผลตอบแทนที่สูง มีตั้งแต่ 6-200% ต่อเดือน" กระทรวง เล่าถึงภาพรวมของการหลอกลวงในศักราชนี้

  •  เปิดเพจ หารูปปลอม ทำอินโฟชวนลงทุนผลตอบแทนสูง กลลวงหลอกลงทุนยอดนิยม  

จากประสบการณ์ที่เคยเจอ ซัน-กระทรวง กล่าวว่า การหลอกลงทุนมักจะเอาผลตอบแทนสูงในระยะสั้นๆ มาจูงใจ และตั้งแต่โซเชียลมีเดียแพร่หลายในช่วงหลังๆ เหล่ามิจฉาชีพก็สร้างความน่าเชื่อถือผ่านการนำเสนอข้อมูลปลอม 

- เปิดเพจที่มักจะใช้โลโก้ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เพื่อสร้างน่าเชื่อถือ หรือให้คนเข้าใจผิด เช่นโลโก้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ก.ล.ต. เป็นต้น

- แอบอ้างคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงการลงทุน เช่น ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์, อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข พิธีกรด้านการเงินการลงทุน, พอล ภัทรพล ดารานักแสดงและยูทูบเบอร์ด้านการลงทุนและพัฒนาตัวเอง หรือแม้แต่ตัวของเขาเอง (กระทรวง) ก็เคยถูกแอบอ้างชื่อไปหลอกคนอื่นมาลงทุนเช่นกัน

- ทำอินโฟกราฟิกให้ข้อมูล เช่น ชวนลงทุนผลตอบแทนสูง เริ่มต้นได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก หรือทำเอกสาร บลจ. ปลอม แต่ให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว

- ให้โอนเงินเข้า "บัญชีม้า" ซึ่งเป็นบัญชีที่ถูกซื้อมาจากคนที่รับเปิดบัญชีขาย

- เงินจะถูกโอนต่อไปเรื่อยๆ หลายบัญชี บางครั้งปลายทางคือ ต่างประเทศ หรือไปเปลี่ยเป็นคริปโทฯ ซึ่งสืบสาวได้ยาก ยากต่อการจับกุม หรือส่วนใหญ่จับได้แต่คนรับจ้างเปิดบัญชีที่เป็นด่านแรกเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

รู้จัก “บัญชีม้า” ทริคจับกลลวงมิจฉาชีพช่วงสงกรานต์
แฉกลโกง! หลอกลงทุนผ่านแอป สูญเงินกว่า 88 ล้านบาท ร้องตำรวจไซเบอร์ช่วยด่วน
ย้อนรอย 'แชร์ลูกโซ่' 'ออมกินดอก' บทเรียน 'หลอกลงทุน' รู้ทันก่อนเป็นเหยื่อ
 

  •  ข้อควรสังเกต 

- ผลตอบแทนที่สูงลิบ

การหลอกลงทุนมักใช้ "ผลตอบแทนสูง" ที่ล่อตาล่อใจ จากประสบการณ์ที่เจอ คือมีตั้งแต่ 6-200% ต่อเดือน โดยจะการันตีผลตอบแทนด้วย 

ไม่ว่าจะการันตีผลตอบแทนแบบไหน คนในวงการจะรู้ว่าเราการันตีผลตอบแทนกันไม่ได้ การลงทุนมีความเสี่ยงด้วยตัวของมันเอง โดยเฉพาะลงทุน 3,000 ได้ 30,000 ทำไมเขาถึงไม่ใช้เงินของเขาทำเอง ทำไมต้องมาให้เรา   

ทว่าในความจริงแล้วความเป็นไปได้ในการสร้างผลตอบแทนจากหุ้นแต่ละช่วงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถการันตีได้เลย เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด เช่น หากเป็นตลาดกระทิงหรือตลาดขาขึ้น ผลตอบแทน 100% เป็นไปได้ปกติ หรือถ้าเลือกหุ้นถูกตัวได้ผลตอบแทนแตะ 1000% ก็มี 

ขณะที่ช่วงตลาดหมี หรือตลาดขาลง ได้ 10% ก็ถือว่าเก่งแล้ว เพราะส่วนใหญ่ตลาดขาลง หุ้นมักจะมีแนวโน้มลงแทบทุกตัว

ทั้งนี้ หากดูค่าเฉลี่ยผลตอบแทน ตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นอเมริกา ย้อนไป 40-50 ปี อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยโดยปกติของตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ที่ 15% ต่อปี ดังนั้นค่าเฉลี่ยที่สูงเกิน และการันตีผลตอบแทนสม่ำเสมอได้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าหลอกลวง

- ตรวจสอบไม่ได้

การลงทุนหุ้นปัจจุบันสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยการลงทุนหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ต้องใช้เงินในการลงทุน ควรจะลงทุนผ่านบริษัทที่ ก.ล.ต. กำกับและตรวจสอบได้ และมีตัวตนจริง

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เช่น ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน "SEC Check First" ที่จะรวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมถึงค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตเพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุน (หลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล) 

เจาะกลโกง "หลอกลงทุน" ยุคใหม่ สังเกตยังไงให้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
 

  •  วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพหลอกลงทุน 

- ศึกษาอย่างลึกซึ้งก่อนลงทุน 

กระทรวง ย้ำว่าก่อนที่จะลงทุนอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องศึกษาหาความรู้ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ อย่างจริงจัง

"ไม่ใช่ศึกษาแบบผิวเผิน แต่ต้องศึกษาแบบลึกซึ้ง และต้องดูว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร risk to reward ratio เป็นอย่างไร expect return หรือ expect loss เป็นอย่างไร สถานการณ์ที่จะทำให้เราเสียเงินก้อนนี้ไปเป็นอย่างไรบ้าง ได้วาง stop loss หรือ money management หรือเปล่า คราวนี้พอเราศึกษาทุกผลิตภัณฑ์ พอมีความรู้เรื่อง fundimetal analysis, technical analysis เป็นอย่างไร"

- ลงทุนด้วยตัวเอง หรือเลี่ยงการจ้างเทรดแบบโอนเงินให้

การรับเทรดมีการรับจ้างทำเป็นปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้าง โดยมีเป็น 2 แบบ

1. ให้ยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด ของพอร์ตหุ้นเราเพื่อให้คนอื่นเข้าไปบริหารแทน ถ้ามีกำไรก็มีการแบ่งกันตามตกลง 10-20% หรือ 50% แล้วแต่ตกลง ซึ่งลักษณะแบบนี้คือ ค่อนข้างปลอดภัย เพราะเงินยังอยู่กับเรา

2. ให้โอนเงินเข้ามาให้เพื่อเอาไปเทรดแทน ถ้ากลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง ถ้ามาทรงนี้ต้องระวัง เพราะความจริงแล้วเราสามารถเปิดพอร์ตเองได้

"ระวังการโอนเงินให้คนอื่นเทรดแทนแล้วชิ่งหนี มีหลายกรณี ทั้งเชิดเงินหนีไปเลย ทำพอร์ตระเบิดเวลาขาดทุนก็มีขาด หรือกระทั่งตั้งใจทำให้พอร์ตขาดทุนเพื่อไปโชว์กับเจ้าของเงินหลายๆ เจ้าที่รับเงินลงทุนมา เช่น ลงทุนคนละล้าน เทรดขาดทุนแล้วเอาไปโชว์แล้วคืนเงินส่วนที่เหลือให้ทุกๆ คน เพื่อเอาส่วนต่างที่เหลือลึกล้ำมาก เคยมีคนทำสุดท้ายโดนจับโป๊ะได้ ออกจากวงการไปแล้ว" กระทรวง กล่าว 

- เปิดพอร์ตลงทุนด้วยชื่อของเราเอง

- ติดต่อกับ บลจ. ที่มีใบอนุญาต จาก ก.ล.ต. โดยตรงด้วยตัวเอง นอกนั้นเชื่อไม่ได้

คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพลาดกับมิจฉาชีพที่โทรมาจากข้างนอก แต่พลาดกับคนรู้จักที่มาแนะนำ ทั้งคนที่ไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก และคนที่ตั้งใจมาหลอกเพราะได้ค่านายหน้า ดังนั้นต้องศึกษาด้วยตัวเองให้เข้าใจและใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจลงทุน จะได้ไม่เสียใจในภายหลังนั่นเอง

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์